Top Social Platforms Updates อัปเดต 3 แพลตฟอร์มตัวท็อป ฉบับท้ายปี 2024

จากงาน MARKETING INSIGHT & TECHNOLOGY CONFERENCE 2024

LINE Thailand 

โดย คุณจิรพัฒน์ เดชดนู (Display Advertising Team Lead, LINE Thailand)

  • ในปัจจุบัน (ปี 2024) Line มีอายุครบ 13 ปี และมีผู้ใช้กว่า 56 ล้านคนต่อเดือน

เปรียบเทียบกับผู้ใช้งาน Line ในปี 2013 ที่มีผู้ใช้อยู่ที่ 20 ล้านคนต่อเดือน เป็นการเติบโตขึ้นถึง 180%

  • ในปี 2024 มีบัญชีผู้ใช้ Line OA (LINE OFFICAL ACCOUNT) กว่า 6 ล้านบัญชีต่อปี
  • Line ได้ให้บริการ Line Ads ที่เป็นระบบ Bidding โดยผู้ใช้สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อทำโฆษณาไปยังพื้นที่บริการต่างๆ ของไลน์ ได้แก่ Line Home, Line Chatlist, Line Voom, Line Today, Line Wallet, Line Openchat, และบริการใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้อย่าง Line Album
  • จากผู้ใช้ทั้งหมด 56 ล้านคน Line เข้าถึงผู้ใช้เพศชาย 54% และเพศหญิง 46%  เรียงลำดับกลุ่มอายุผู้ใช้ Line มากที่สุด ดังนี้
  1. 30-39 ปี  (37%)
  2. 20 – 29 ปี (29%)
  3. 40-49 ปี  (19%)
  4. 50+ (13%)
  • Line มีการพัฒนาอัปเดต Target Audience ใหม่ โดยทำการเพิ่มกลุ่ม Target จากเดิม 26 Target (ปี 2023)  69 Target (ปี 2024) มีการเพิ่มกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจ เช่น Luxury Fashion, Photography, Hobbies & Activities, Hotels & Accommodations ซึ่งหลังจาก Line ได้อัปเดตกลุ่ม Target ใหม่ ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ Conversion rate ที่ดีขึ้นถึง 4 เท่า 
  • อัปเดตล่าสุด! ตั้งแต่เดือน กันยายน 2024 เป็นต้นไป Line จะเพิ่ม Target Audience ใหม่มากขึ้นอีก จาก 69 Target (สิงหาคม 2024)  164 Target (กันยายน 2024 เป็นต้นไป) ซึ่งเพิ่มขึ้นอีกกว่า 95 Target
  • Line จะเปิดให้ใช้งาน Line Official Account Followers Targeting โดยได้มีการจัดกลุ่ม 18 ประเภทธุรกิจ ครอบคลุมกลุ่มสินค้าที่หลากหลาย โดยในแต่ละประเภทธุรกิจยังสามารถเข้าไปเลือกรายละเอียดปลีกย่อยของ Target นั้นได้อีก อย่างเช่น หากผู้ใช้เลือก Target เครื่องดื่ม ยังสามารถเข้าไปเลือกเจาะจงถึงประเภทเครื่องดื่มได้ อย่างเช่น น้ำเปล่า เครื่องดื่มชูกำลัง หรือชาไข่มุก เป็นต้น 
  • ตัวอย่างกลุ่ม Target ที่น่าสนใจ ที่ Line แนะนำ คือกลุ่มเป้าหมาย  งานอดิเรกและกิจกรรม (Hobbies & activities) ที่ได้เจาะจงเพิ่มกิจกรรมที่คนไทยนิยม อย่าง การดูดวง การเล่นหวย
  • Line มีการพัฒนากลุ่ม Target ให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ด้วยการทดลองทำ Special Targeting โดยได้ร่วมมือกับ ADA targeting ผสานกลุ่ม Target เข้าด้วยกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนได้เป็น Target พิเศษ ออกมา 3 กลุ่มได้แก่ Low – High Affluence, Occupations, และ Location: Place Of Interest ซึ่งหลังจากนำทั้ง 3 กลุ่ม Target ไปทดสอบกับหลายๆ ธุรกิจ และได้ผลลัพธ์ Conversion rate ที่สูงขึ้น และช่วยลด Cost per Action ลงอย่างเห็นได้ชัด โดยตอนนี้ การทำ Special Targeting ยังอยู่ในช่วงพัฒนา เพื่อให้ในอนาคตทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 
  • Line มีการทำฐานข้อมูลของลูกค้า พร้อมด้วยช่องทางการให้บริการที่หลากหลาย เป็น LINE CROSS-FUNNEL MEDIA MARKETING ที่ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ
  • ได้มีการออกบริการใหม่ คือ LON (Line Official Notification) เป็นบริการที่ช่วยให้แบรนด์ส่ง Notification จาก Line Official ของแบรนด์ไปถึงลูกค้าได้ 
  • โดยทุกบริการของ Line ผู้ใช้สามารถจัดการและเก็บสถิติข้อมูลต่างๆ ได้ในที่เดียว จาก Business Manager ที่เป็นฐานข้อมูลกลาง ช่วยให้ผู้ใช้พัฒนาการตลาดของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

Meta

โดย คุณภารดี สินธวณรงค์ (Marketing Lead, Thailand & Vietnam | Global Business Marketing , Meta)

  • Meta มีผู้ใช้ปัจจุบันอยู่ที่ 3.27 พันล้านคน เติบโตขึ้น 7% จากปีที่ผ่านมา (2023)
  • ผู้ใจ Meta มากกว่า 60% ใช้ไปกับการดูวิดีโอ บน Facebook และ Instagram
  • แอปใหม่อย่าง Threads มีผู้ใช้มากกว่า 200 ล้านคนในแต่ละเดือน
  •  เมื่อต้นปี 2024 ได้มีการเปิดใช้งาน Generative Al สำหรับ Ads ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการใช้งาน Generative Al ไปแล้วมากกว่า 1 ล้านคน ใน 1 เดือนที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก Q1 และ Q2 ปี 2024)
  • Meta AI จะเปิดให้บริการเป็นภาษาไทยเร็วๆ นี้ โดยสามารถใช้งาน Meta AI ได้ในแอปของ Meta ที่คุณมีอยู่แล้ว อย่าง Facebook, Instagram, Messenger หรือ Whatsapp ได้โดยไม่ต้องโหลดแอปเพิ่ม ซึ่งสามารถใช้งาน Meta AI ได้ด้วยการพิมพ์คำถามลงบนช่องค้นหาในแอปนั้นๆ ได้เลย
  • Meta ได้มีการใช้ AI ช่วยเสริมการทำโฆษณาธุรกิจ ตั้งแต่การช่วย Setup งบ, การทำชิ้นงานโฆษณา,การกำหนด Destination,การเลือก Placement และ การเลือกกลุ่มเป้าหมาย โดยระบบ AI จะช่วยประมวลผล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตัวอย่างเช่น ADVANTAGE+ SHOPPING CAMPAIGNS ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับ increase in return on ad spend cost มากขึ้นถึง 32% และผู้ใช้ ADVANTAGE+ APP CAMPAIGNS ช่วยลด CPA ลงได้กว่า 9%
  •  Meta กำลังทำการพัฒนา AI for business marketing ที่เป็น Chatbot คอยช่วยตอบแชทของลูกค้า รวมถึงช่วยปิดการขายให้เราได้ตลอด 24 ชม.
  • การวิจัยของ Mata ได้ผลว่า ชิ้นงานโฆษณาเป็นตัวบ่งบอกความสำคัญของโฆษณามากถึง 56% นั้นหมายความว่าการที่คุณมีชิ้นงานโฆษณาที่หลากหลายและตรงจุดกับกลุ่มเป้าหมาย มีความสำคัญต่อการทำการตลาดเป็นอย่างมาก
  • ตัว AI ของ Meta สามารถช่วยให้ชิ้นงานโฆษณาดูน่าสนใจขึ้นได้ ตั้งแต่ ช่วยสร้างภาพ (generate image) ตามคำสั่งที่ใส่ลงไป ช่วยให้ได้ภาพที่รวดเร็วและหลากหลาย รวมถึง ช่วยสร้างแคปชั่น ที่น่าสนใจ โดยตัว AI จะเข้าไปเก็บข้อมูลย้อนหลังการทำโฆษณาของคุณ เพื่อประมวลผลเป็นคำแนะนำโทนการใช้ภาษาของแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วย เปลี่ยนขนาดภาพ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน โดย AI จะช่วยเปลี่ยนขนาด และเพิ่มองค์ประกอบในภาพให้เหมาะสม ซึ่งบริการนี้ Mata ได้เปิดให้ใช้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  • Meta ได้ใช้ AI เข้ามาช่วยหาลูกค้าที่เหมาะกับสินค้าของคุณ เรียกว่า Product find People หมายความว่า AI จะช่วยเสริมความแม่นยำไปถึงกลุ่มเป้าหมาย ช่วยให้ลูกค้าได้ค้นพบสินค้าที่ตรงตามความต้องการ และช่วยให้ตัวแบรนด์เองได้เจอกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุด
  • จากสถิติพบว่า จำนวน 3 ใน 4 ของนักช้อปไทย ค้นพบสินค้าและแบรนด์ ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งต่างๆ เช่น 9.9, 12.12 บน Meta และกว่า 4 ใน 5 ของนักช้อปไทย ได้รับอิทธิพลในการซื้อสินค้าจาก Meta แสดงให้เห็นว่า Meta เป็นเครื่องมือที่ดีในการต่อยอดธุรกิจ ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้ง
  • มีการเพิ่มบริการใหม่ ที่ช่วยสนับสนุนการไลฟ์ในเชิงธุรกิจ ชื่อว่า Live Video Ads ที่จะช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับไลฟ์ของคุณได้ และกำลังจะเปิดให้บริการ Live Shopping Tool เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์สามารถแสดงสินค้าบนหน้าจอระหว่างไลฟ์อยู่ได้ โดยคาดว่าจะสามารถใช้เครื่องมือนี้ได้ในช่วงต้นปี 2025
  • ในช่วงต้นปี 2025 จะมีการออก Shopping Features on Meta Messenger ที่จะโชว์หน้าแค็ตตาล็อกสินค้าบน Messenger ให้ลูกค้าสามารถเริ่มสั่งซื้อได้ทันทีตั้งแต่ในช่องแชท
  • ปัจจุบัน Meta มีระบบ Payment on Messenger หรือที่เรียกว่า Meta Pay ที่รองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต , บัตรเดบิต, Mobil Banking และพร้อมเพย์ มาพร้อมกับระบบตรวจสอบสลิปเงิน เพื่อช่วยยืนยันสลิปเงินของจริงเมื่อทำการซื้อขายบน Messenger

Google Thailand

โดย คุณไอริณ ขันธะชวนะ (Head of Industry, Consumer Goods Sector, Google Thailand)

  • Google เป็น AI first company โดยทุกบริการของ Google จะมี AI คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังทั้งหมด 
  • บริการ AI ของ Google ชื่อว่า Gemini
  • ปัจจุบันผู้คนค้นหาด้วย Google โดยใช้การพิมพ์กันน้อยลง แต่ใช้การค้นหาด้วยเสียงและภาพถ่ายมากขึ้น 
  • จุดแข็งหนึ่งของ Google เรื่องหนึ่งคือ การมีฐานข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยให้ AI ของ Google ประมวลผลลัพธ์ออกมาได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งฐานข้อมูลของ Google ได้มาจากการเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ทุกๆ แพลตฟอร์มGoogle อย่างเช่น Google map, Google play, Youtube และอีกมากมาย ทำให้ Google มีฐานข้อมูลจำนวนมหาศาล และละเอียดครอบคลุมพฤติกรรมผู้ใช้หลายด้าน
  • การใช้ AI ช่วยให้คุณทำ Marketing ได้ฉลาดขึ้น ด้วยการทำ Context Check ที่ AI จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่เจาะลึกยิ่งกว่า ตัวอย่างเช่น การใช้ AI ช่วยจัดแยกกลุ่มคนอายุ 25-34 ปี ที่ชอบแบรนด์ของคุณกับคนที่ยังไม่ชอบออกจากกัน โดย AI ของ Google สามารถช่วยแยกได้อย่างแม่นยำ ด้วยการประมวลผลจากฐานข้อมูลพฤติกรรมการใช้ Google แพลตฟอร์มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์คุณ
  • โดยลูกค้าที่เลือกใช้ AI มาเป็นเครื่องมือ จะสามารถช่วยประหยัดเงินไปได้กว่า 20-50%
  • Google Maps ช่วยให้คุณทำ Shopper Targeting ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดย Google มีข้อมูลของผู้ที่เข้าร้านต่างๆ อย่าง 7-11, Lotus, ห้างสรรพสินค้าต่างๆ รวมไปถึงร้านค้าในชุมชน อย่างร้านโชห่วย ซึ่งขนาดของ Potential reach ต่อเดือน ที่คุณจะได้จากการทำ Shopper Targeting ด้วย AI มีดังนี้
  • CVS Store (เช่น 7-11) 11 ล้าน Potential reach/month
  • Super/ Hyper Store (เช่น Big C, Lotus) 26 ล้าน Potential reach/month
  • Grocery Store (เช่น ร้านโชห่วย) 20 ล้าน Potential reach/month
  • Google AI สามารถช่วยสนับสนุนการตลาดแบบออฟไลน์ อย่างการเปลี่ยนการ In Store Promotion โปรโมชั่นหน้าร้านต่างๆ ให้เป็น Pre-Store Promotion ที่จะช่วยโฆษณาดึงกลุ่มเป้าด้วยการแจ้งโปรฯ ตั้งแต่ก่อนเริ่มโปรโมชั่น
  • ปัจจุบันเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ 3 เรื่อง เกี่ยวกับผู้บริโภคที่คนทำการตลาดควรรู้ คือ
  1. “Mass” is no longer “Middle”

สินค้าที่ขายเป็น Mass Product เริ่มไม่ได้ผลในยุคนี้ เพราะในปัจจุบันกลุ่มรายได้ของประชากรเริ่มเหลือเป็นแค่ 2 กลุ่มคือ กลุ่มผู้มีรายได้สูง และ ผู้มีรายได้ต่ำ ส่วนกลุ่มคนชั้นกลางได้เริ่มหายไปแล้ว ทำให้ผู้บริโภคปัจจุบันเริ่มจะแบ่งเป็นกลุ่มที่ซื้อสินค้าพรีเมียม Affordable Luxury (แบรนด์หรูในราคาที่เอื้อมไหว) และกลุ่มที่ซื้อจาก Value ของสินค้า แทนการเลือกซื้อสินค้าทั่วไปอย่าง Mass Product

  1. “Mass” is not “Equal”

จากการวิเคราะห์ของ Google  พบว่า 75% ของรายได้หลักที่แบรนด์ได้รับ มาจากกลุ่มลูกค้าเพียง 30% ของลูกค้าทั้งหมดเท่านั้น นั้นทำให้กลุ่ม 30% นี้คือ High value users (HVU) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความสำคัญ ถึงขั้นชี้ชะตาแบรนด์ของคุณได้ คุณจึงต้องเกาะลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ให้แน่นที่สุด 

  1. “Mass” is not “Usual”

ปัจจุบันกลุ่มคนอายุ 40-49 ปี คือประชากรกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รองลงมาคือ 50-60 ปี และจากสถิติพบว่า… 

  • 53% ของผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไปเป็นผู้มีรายได้สูง
  • ผู้มีอายุ 40-59 ปี เป็นผู้มีการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไปถึง 69% 
  • ผู้มีอายุ 40-59 ปี  ซื้อสินค้า online และ Supermarket/Hypermarket  มากกว่ากลุ่มเจน Z ถึง 2 เท่า

ซึ่งจากตัวเลขทั้งหมดนี้ ทำให้เห็นว่ากลุ่ม 40-59 ปีเป็นกลุ่มมีค่าทางการตลาด ที่คุณไม่ควรมองข้ามอีกต่อไป

  • สถิติ 3 อันดับ Most Frequently Accessed Media ความถี่ในการเข้าถึงมีเดีย ของคนทั้ง 3 รุ่น (Gen Z, The 30s, Gen Prime 40+)  ได้แก่
    1. Youtube
    2. Facebook
    3. Google 
  • สถิติ 3 อันดับ Top Touchpoints before purchase ลูกค้าจดจำโฆษณาก่อนซื้อสินค้าได้จากแพลตฟอร์มใดมากที่สุด จากคนทั้ง 3 รุ่น (Gen Z, The 30s, Gen Prime 40+)  ได้แก่
    1. Google
    2. Youtube 
    3. โฆษณาทาง TV
  • สถิติ 3 อันดับ Most Trusted online ลูกค้าเชื่อถือโฆษณาจากแพลตฟอร์มใดมากที่สุด จากคนทั้ง 3 รุ่น (Gen Z, The 30s, Gen Prime 40+)  ได้แก่
  1. Youtube 
  2. Google
  3. Tiktok
  • Domain name : Top-Social-Platforms-Updates-2024-2025
  • About the Author
  • New : Content Editor
Visited 27 times, 1 visit(s) today

Enhance your sales and marketing efficiency in Southeast Asia with our expert social media team—contact us today for professional support.