Future of AdTech โฆษณาและเทคโนโลยีจะเป็นอย่างไรในอนาคตข้างหน้า

AdTech คืออะไร? ตามความหมายของ Gartner

Gartner เองได้ให้ความหมายของ AdTech ว่าคือ “แพลตฟอร์ม ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือที่ถูกสร้างโดยนักโฆษณาและเอเจนซีโฆษณาเพื่อทำแคมเปญโฆษณา รันแคมเปญ และเก็บข้อมูล รวมถึงการวัดผลแคมเปญที่ทำไปว่ามีแคมเปญไหนบ้างที่ได้ผลดีหรือไม่ดี”

AdTech & MarTech ต่างกันอย่างไร?

AdTech = Anonymous Audiences คือ จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ชมที่ไม่ระบุตัวตน เก็บข้อมูลเกี่ยวกับบริบทต่างๆ ของเราในโลกออนไลน์ (เช่น กดไลก์เพจประเภทไหนเป็นส่วนใหญ่ เป็นต้น) โดยใช้เทคนิคและเทคโนโลยีเพื่อการโฆษณา ได้แก่

Method (วิธีการ)

  1. Contextual Advertising: การโฆษณาในบริบทที่เหมาะสมกับเนื้อหาที่ผู้ใช้กำลังสนใจ
  2. Lookalike Audiences: การค้นหากลุ่มผู้ใช้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน
  3. Retargeting: การทำโฆษณาเพื่อติดตามผู้ใช้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาหรือเว็บไซต์

Technologies (เทคโนโลยี)

  1. DSPs (Demand-Side Platforms): แพลตฟอร์มที่ใช้ในการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์
  2. Walled Gardens: การโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มปิด เช่น Facebook หรือ Google
  3. Trading Desks: แพลตฟอร์มที่ใช้จัดการแคมเปญโฆษณาหลายช่องทาง
  4. Clean Rooms: สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการแชร์ข้อมูลโดยไม่เปิดเผยตัวตน

สรุปแล้ว AdTech เน้นไปที่การโฆษณาที่ไม่ระบุตัวตนผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ในขณะที่ MarTech เน้นที่การสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะตัวและการจัดการกลุ่มผู้ชมที่ให้ความยินยอมอย่างมุ่งมั่น

AdTech Trends in 2024

1. Personalized Ad Powered by AI = New Norm หรือ การโฆษณาที่ปรับแต่งด้วย AI จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ :: การใช้ AI ในการสร้างโฆษณาจะกลายเป็นเรื่องปกติในวงการโฆษณา ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า และสามารถใช้ AI ในการ Personalized กลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย ทำให้ผู้ที่ประยุกต์ใช้ AdTech และ Idea เข้าด้วยกันได้จะได้เปรียบมากขึ้น

2. Cross-Channel (Platform) Measurement หรือ การวัดผลข้ามแพลตฟอร์ม :: เมื่อการทำโฆษณาในยุคนี้ไม่สามารถทำได้แค่บนแพลตฟอร์มเดียว นักการตลาดจึงต้องมีการทำโฆษณาบนหลายช่องทาง หลายแพลตฟอร์ม และการวัดผลการทำงานของโฆษณาก็ไม่ควรที่จะจำกัดอยู่แค่แพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น แต่ต้องสามารถวัดได้ในหลายช่องทางเพื่อเพิ่มความแม่นยำมากขึ้นนั่นเอง

3. Privacy-First Strategy หรือ กลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว :: บุคคลยุคใหม่ให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น และนักการตลาดเองก็ควรให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นสำคัญด้วย ดังนั้น นักการตลาดเองก็ต้องวางกลยุทธ์ที่จะมาช่วยให้ผู้ใช้งานยอมมอบข้อมูลส่วนตัวได้แบบโปร่งใส ไม่อ้อมค้อม เช่น เมื่อคุณให้ข้อมูลในจุดนี้ คุณจะได้รับโปรโมชั่นตอบแทนสำหรับข้อมูล เป็นต้น 

AdTech from Zero – Hero ระดับของนักโฆษณาและเครื่องมือที่เหมาะในแต่ละช่วง

1. Ads Bidder คือ ผู้ที่สามารถสร้างแคมเปญได้ เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย สามารถเสิร์ฟโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ & เครื่องมือที่เหมาะสม ได้แก่ Meta, Google Ads, Line

2. Ad Optimizer ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญการทำ A/B Test เข้าใจการทำงานของแพลตฟอร์มอย่างชัดเจน สามารถปรับแต่งงบประมาณระหว่างการทำโฆษณาได้ & เครื่องมือที่เหมาะสม ได้แก่ Excel, Facebook Pixel, Google Tag Manager, Creatopy

3. Marketing Analyst หรือ ผู้ที่สามารถสร้างแดชบอร์ดต่างๆ ได้ เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของแคมเปญเรียลไทม์ ดึงข้อมูลรายงานและปรับปรุงแคมเปญรายสัปดาห์ & เครื่องมือที่เหมาะสม ได้แก่ Google Sheets, Looker Studio, Google Analytics 4

4. Performance Marketer คือ ผู้ที่สามารถเลือกทำเลที่ตั้งของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ สามารถใช้ MarTech เข้ามาช่วยในการทำงานมากขึ้น สามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าได้ & เครื่องมือที่เหมาะสม ได้แก่ PAM Real CDP, Sable, Connect X

5. AdTech Data Engineer คือ ผู้ที่มีความรู้ของการวิเคราะห์ข้อมูล สามารถทำนายได้ว่ากลุ่มเป้าหมายจะมีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง สามารถใช้งาน AI ในแคมเปญได้ดี & เครื่องมือที่เหมาะสม ได้แก่ Revealbot, Make

6. Chief AdTech Officer เป็นผู้นำของโฆษณา มีความเชี่ยวชาญในด้าน AdTech และ MarTech เช่น CDP (Customer Data Platform), CRM (Customer Relationship Management), Analytics และยังสามารถสร้างเส้นทางหรือ Roadmap สำหรับ AI ในการทำโฆษณา & เครื่องมือที่เหมาะสม ได้แก่ Fivetran, AWS, ChatGPT, Gemini

นอกจากเราจะเรียนรู้เรื่องการใช้ AdTech หรือ MarTech กันไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเพื่อให้ถึงเป้าหมายสูงสุดของการทำโฆษณา เราคงต้องมี Idea ด้วย เพื่อช่วยให้เราเรียนรู้กลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้งที่สุดนั่นเอง

ถ้าอยากจะใช้งาน AdTech ให้ประสบความสำเร็จ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือเพียงอย่างเดียว เพราะเครื่องมือเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา แต่มันขึ้นอยู่กับ Used Cases ถ้าเราเลือกใช้เครื่องมือได้เหมาะสมกับกรณีมันจะทำให้ประสบความสำเร็จมากกว่า

ตัวอย่าง AdTech Used Cases ว่า AdTech สามารถทำงานอย่างไรบ้าง?

การใช้งาน AdTech ให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด ต้องเกิดการทำงานร่วมกันระหว่าง คน , AI และ AdTech โดยอาจอยู่ในรูปแบบของ 

นักการตลาดตั้งสมมติฐาน บรีฟงานด้วย AI > ส่งต่อมาถึง AI (ทำการดราฟต์ไอเดียให้ออกมาเป็นรูปร่าง) > ส่งต่อมาถึง AdTech ทำการเผยแพร่ชุดโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย > กลับมาสู่การสร้าง Personalization เป็นต้น

3 สิ่งที่อยากให้นักการตลาดทุกคนพึงระวัง

  1. รักษากาลเทศะของโฆษณาให้ดี อย่าให้ลูกค้าจับได้ว่าคุณใช้ AdTech มากเกินไป
  2. ผลลัพธ์ที่เป็นภาพใหญ่คืออะไร ต้องดูว่าผลลัพธ์ที่เราได้ตรงกับ KPI ของเราหรือไม่ เพื่อป้องกันการใช้เงินซ้ำซ้อน
  3. ถ้าไม่อยากโฆษณาเฟล ให้ใช้มองมุมของเราแทนตัวผู้คนเสมอ
  • ข้อมูลจากงาน : AP Thailand Presents MARKETING INSIGHT & TECHNOLOGY CONFERENCE 2024
  • ผู้บรรยาย : 

หากเพจของคุณกำลังมองหา Partner ที่จะช่วยคุณสร้างแบรนด์ สร้างคอนเท้นท์ที่ดี พร้อมการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ และพร้อมให้คำปรึกษา ให้ Clisk Thailand ของเราช่วยสร้างแบรนด์ของคุณได้นะคะ ติดต่อคลิสค์ได้ที่ 0-2060-6977 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00 น. – 18:00 น.

Visited 28 times, 1 visit(s) today

Enhance your sales and marketing efficiency in Southeast Asia with our expert social media team—contact us today for professional support.