รวมเทคนิคปั้น Live ให้ยอดปังต้องทำยังไง? โอกาสทองที่ E-Commerce ต้องรู้ไว้เลย

ถ้าพูดถึงวงการ Live commerce แล้วประเทศที่นำหน้ากว่าใครคงต้องยกให้ประเทศจีนเลยจริงๆ ถ้าใครมีโอกาสได้เข้าไปดูการไลฟ์ขายของของคนจีนจะเห็นเลยว่า มีความทันสมัยและน่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของสินค้า เทคนิคการขาย ระบบสั่งซื้อ แม้กระทั่งการจัดส่ง ทุกอย่างล้วนเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว 

ในขณะที่ประเทศไทยก็ใช่ว่าจะน้อยหน้า ถ้าย้อนตั้งแต่ช่วง Covid-19 มาจนถึงปัจจุบันคนไทยหันมา shopping ทาง online กันมากขึ้นหลายเท่าตัว รวมถึงการ “เอฟของ” ผ่านทาง Live ที่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน การไลฟ์ขายของจึงกลายมาเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งที่ทุกแบรนด์ต้องทำ โดยเฉพาะการไลฟ์ในแพลตฟอร์ม E-Commerce ตัว Top ที่คนไทยนิยมใช้ เช่น Tiktok, Shopee และ Lazada เป็นต้น

วันนี้เรามาศึกษาการทำ Live commerce และเทคนิคที่น่าสนใจจากสปีกเกอร์ ‘นักไลฟ์ตัวจริง’ ที่ทำยอดขายได้เกิน 20 ล้านบาทภายใน Live เดียว! คุณวุฒิพงษ์ ลิขิตชีวัน, CEO ArTee Media, VEGA Creator 

ใน Session: How brands can thrive in Live Commerce แบรนด์จะใช้งานและเติบโตใน Live Commerce ได้อย่างไร ? ภายในงาน AP Thailand Presents MARKETING INSIGHT & TECHNOLOGY CONFERENCE 2024 หรือ MITCON2024 แบบครบจบในบทความเดียว!

ความสำคัญของการทำ Live commerce

จริงอยู่ที่การทำ Live commerce ของแบรนด์ส่วนใหญ่มักมีวัตถุประสงค์เพื่อ ‘ขายของ’ เป็นหลัก แต่ต้องขอบอกเลยว่าการไลฟ์มันมีกลไกที่มากกว่านั้น ซึ่งสามารถสร้างประโยชน์ต่อแบรนด์ได้มากกว่าแค่ขายของแน่นอน 

ความสำคัญของการทำ Live commerce ได้แก่

1. สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชมแบบเรียลไทม์

แบรนด์สามารถใช้การไลฟ์เป็นช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าแบบ Real-time ได้เลย มีการถาม มีการตอบ มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าโดยตรง และที่สำคัญแบรนด์เองก็อาจจะได้ข้อมูล Customer Insight อะไรบางอย่างผ่านการพูดคุยง่าย ๆ อย่างนี้ก็ได้

2. เพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นมนุษย์ให้กับแบรนด์

เมื่อเทียบกับโพสต์คอนเทนต์ การเห็นโฆษณา การดูคลิปวิดีโอแล้ว ผู้บริโภคจะรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ได้มากกว่าเมื่อดูผ่านไลฟ์ เพราะว่าพวกเขาสามารถพูดคุยกับแบรนด์ได้จริง ๆ 

แบรนด์สามารถใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างความไว้วางใจ และทำให้คนดูเชื่อในตัวแบรนด์มากขึ้น โดยเริ่มการเลือก ‘ผู้ดำเนินการไลฟ์’ หรือที่เรียกว่า พิธีกร MC แม่ค้า ใด ๆ ก็ตาม ควรที่จะเป็นคนที่มีคาแรกเตอร์ที่ตรงกับแบรนด์ มีทักษะการสื่อสารที่ดี สามารถสร้างความประทับใจได้ เพราะเขาเป็นตัวแทนของแบรนด์ ถ้าเลือกคนที่ไม่ดีก็อาจทำให้คนดูมีอคติกับแบรนด์ได้เหมือนกัน

3. โอกาสในการตอบคำถามและแก้ไขข้อสงสัยได้ทันที

หากลูกค้าเกิดมีข้อสงสัยและพิมพ์แชตเข้ามา แบรนด์สามารถใช้โอกาสนี้เพื่อแก้ไขข้อสงสัยในทันใดทันที นอกจากจะช่วยลดความเข้าใจผิดและสร้างความชัดเจนแล้ว ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความใส่ใจของแบรนด์อีกด้วย เมื่อแบรนด์สามารถสื่อสารได้โดยตรงแบบนี้ก็ย่อมเพิ่มโอกาสที่จะเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นด้วย

เทคนิคการไลฟ์อย่างมืออาชีพ

อุปกรณ์ที่จำเป็นในการไลฟ์

1. สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีกล้อง ไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นที่ดีที่สุดแต่จะต้องใช้งานได้ไม่สร้างปัญหาขณะไลฟ์

2. ไมโครโฟนคุณภาพดี การไลฟ์เรื่องเสียงสำคัญที่สุด ควรไลฟ์ให้เสียงชัดเจน ไม่ขาด ๆ หาย ๆ และไม่มีเสียงรบกวน

3. แสงไฟสำหรับการถ่ายวิดีโอ นอกจากจัดไฟให้คนแล้วอย่าลืมที่จะมีไฟส่องสินค้าด้วย ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและทำให้สินค้าโดดเด่นดึงสายตา

4. อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ควรใช้อันที่มีค่าอัปโหลด ดาวน์โหลด และ Latency หรือ Ping ที่เหมาะสม นอกจากนี้แนะนำให้ใช้แบบเชื่อมต่อผ่านสาย LAN เข้าอุปกรณ์โดยตรงมากกว่าแบบ  Wi-Fi  เพราะจะได้ความเสถียรสูงกว่า

การเตรียมตัวก่อนเริ่มไลฟ์

1. ตั้งวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน ควรมีธีมในการพูดทุกครั้ง เช่น ถ้าไลฟ์เพื่อขายของจะเอายอดกี่บาท ถ้าไลฟ์เพื่ออธิบายสินค้าอาจดูจำนวน comment หรือการกดหัวใจ นอกจากนี้อาจพิจารณาถึงหัวข้อพูดคุยอื่นๆ ด้วย เช่น พูดหัวข้อที่ถนัด หรือหัวข้อที่เป็นกระแสในตอนนั้น

2. เตรียมเนื้อหา วางโครงเรื่อง ลำดับเนื้อหาที่จะนำเสนอ โดยมีเทคนิคในการทำเนื้อหาง่ายๆ ดังนี้

  • คัดและจับกลุ่มสินค้า ควรเลือกสินค้าที่จะขายในไลฟ์นั้น ๆ ให้ชัดเจน เช่น มีสินค้าตัวหลักในการขายก่อน จากนั้นอาจเลือกสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องมาด้วย ทำแบบนี้ก็จะช่วยให้การพูดขายลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
  • วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มเด็กนักเรียน-นักศึกษา กลุ่มคนทำงาน กลุ่มสูงวัย กลุ่มแม่และเด็ก เป็นต้น เพื่อให้เรารู้ว่าควรต้องพูดอย่างไร พูดสไตล์ไหนจึงเหมาะสม 
  • วิเคราะห์ช่วงราคาของสินค้า เพื่อให้เราจัดลำดับการพูดได้ดีขึ้น เช่น เริ่มจากขายสินค้าราคาถูกก่อนเพื่อชักจูงใจ และเมื่อเปลี่ยนสินค้าอย่าลืมที่จะพูดให้เชื่อมโยงกันเพื่อความน่าติดตาม

3. ทดสอบอุปกรณ์ทุกอย่างก่อนเริ่มไลฟ์เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าการไลฟ์จะสามารถดำเนินไปด้วยความราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ เช่น กล้อง คอมพิวเตอร์ ไมค์ ไฟ และอินเทอร์เน็ต

4. แจ้งการไลฟ์ให้ทั่วถึง โดยใช้โซเชียลมีเดียที่มีอยู่แจ้งเตือนการไลฟ์ก่อนล่วงหน้าทุกครั้งเพื่อให้ผู้ติดตามซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ได้รับทราบและเตรียมตัวที่จะเข้ามาดูไลฟ์ได้ทัน

เทคนิคการนำเสนอของนักไลฟ์

1. พูดชัดเจนและมีความมั่นใจ 

2. ใช้ภาษากายที่เป็นมิตรและเปิดเผย โดยเฉพาะการแสดงออกทางสีหน้า 

3. มองกล้องเพื่อสร้างการเชื่อมต่อกับผู้ชม ในขณะที่อ่านคอมเมนต์เป็นระยะ ๆ สร้างความประทับใจ

4. ใช้น้ำเสียงที่หลากหลายเพื่อรักษาความน่าสนใจ มีเสียงดนตรีประกอบ มีเสียงกริ่งเป็นระยะ หรือมีการเว้นจังหวะเงียบบ้างเพื่อเรียกความสนใจ

การสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม 

1. ตอบคำถามและความคิดเห็นอย่างสม่ำเสมอ ให้ผู้ชมรู้สึกว่าสำคัญ ได้รับความใส่ใจ

2. จัดกิจกรรมหรือการแข่งขันสั้น ๆ ระหว่างไลฟ์ เพื่อกระตุ้นความสนใจให้ผู้ชมมีสมาธิจดจ่อกับไลฟ์

3. เรียกชื่อผู้ชมเพื่อสร้างความเป็นกันเอง

4. ขอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ชม 

นอกจากนี้แล้วเพื่อให้แน่ใจว่าการไลฟ์จะไม่ติดขัด เรายังควรที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับ การจัดการปัญหาเฉพาะหน้า ด้วย เช่น 

1. เตรียมแผนสำรองสำหรับปัญหาทางเทคนิค

2. รักษาความสงบและมืออาชีพเมื่อเกิดความผิดพลาด

3. ใช้อารมณ์ขันเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์

การปิดไลฟ์อย่างประทับใจ

1. สรุปประเด็นสำคัญ

2. แจ้งกำหนดการครั้งต่อไป (ถ้ามี)

3. ขอบคุณผู้ชมและกล่าวลา

ตรวจสอบสถิติและข้อมูลการรับชม

หลังจบไลฟ์ทุกครั้งควรที่จะต้องมีการสรุปและประเมินผลลัพธ์เสมอ มีการวิเคราะห์การไลฟ์ในครั้งนั้น ๆ มองหาสิ่งที่ดี และสิ่งที่ต้องปรับปรุง เพื่อให้ทีมสามารถสร้างแนวทางแก้ไขไว้ได้ล่วงหน้า รวมถึงนำไปพัฒนาการไลฟ์ให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นต่อไป โดยตัวชี้วัดสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจ เช่น ยอดวิว การมีส่วนร่วม ระยะเวลาในการชม จำนวน CTR และ CTO เป็นต้น

สรุป

การทำ Live commerce ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปได้อีกมาก ปัจจุบันการไลฟ์เป็นเครื่องมือที่แบรนด์ต่างเลือกใช้เพื่อสร้างยอดขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ โดยการไลฟ์นั้นไม่ได้มีประโยชน์ในแง่การขายเพียงอย่างเดียว แต่ว่ายังสามารถสร้างคุณค่าต่อแบรนด์ในหลาย ๆ ด้าน เช่น ใช้สื่อสารกับลูกค้าโดยตรง ช่วยเพิ่มความเป็นมนุษย์ให้กับแบรนด์ สามารถใช้แก้ไขข้อสงสัย นอกจากนี้ข้อมูลที่ได้จากการพูดคุยกับลูกค้าตัวจริงยังนำไปใช้พัฒนาแบรนด์ต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย 

“หน้า LIVE = หน้าร้าน”

โดยการทำไลฟ์อย่างมืออาชีพนั้นควรเริ่มตั้งแต่มีการเตรียมตัวที่ดี จัดเตรียมอุปกรณ์ วางแผนเลือกสินค้า วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ผู้ไลฟ์มีทักษะการสื่อสารที่ดีและสามารถแก้ไขเฉพาะหน้าได้ ตลอดจนพัฒนาด้วยการศึกษาผลลัพธ์หลังไลฟ์จบ

ถ้าคุณกำลังมองหาพาร์ตเนอร์คู่คิดช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการตลาดออนไลน์ Social Media Marketing, Paid Media และ KOL / Influencer Marketing สามารถ คลิก มาหา ‘ทีมคลิสค์’  ได้เสมอ พวกเรายินดีให้คำปรึกษาพร้อมแนวทางที่ดีที่สุดโดยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ด้านออนไลน์

Visited 72 times, 1 visit(s) today

Enhance your sales and marketing efficiency in Southeast Asia with our expert social media team—contact us today for professional support.