ออเดอร์พุ่ง! Inboxแตก! กับ 8 แนวทางการทำ FACEBOOk LIVE ที่บอกได้คำเดียวว่า “ปัง!”

ในช่วงเวลานี้ที่สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ยังคงไม่สงบลง หลายคนที่กักตัวอยู่บ้าน ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่น Social Media และ Facebook ก็เป็นสื่อออนไลน์หนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก หลายคนเล่น Facebook มีการเลื่อนหน้า New Feed บ่อยขึ้น และมักจะเห็นว่าแบรนด์ หรือร้านค้าต่างๆ ที่เป็นเพจ ได้มีการ “LIVE VDO” กันมากขึ้น เป็นเพราะว่าร้านค้า Offline ที่เป็น Shop, Store ได้ปิดบริการลง แบรนด์และร้านค้าจำเป็นต้องมีการจำหน่ายสินค้าออกไปยังผู้บริโภค เพื่อเป็นการหารายได้และไม่สะสมของไว้ในสต็อกมากเกินไปอีกด้วย

ข้อดีของการทำ Facebook Live คือ ช่วยให้แบรนด์หรือร้านค้า มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในเพจผ่านออนไลน์ทาง Facebook มากขึ้น สามารถพูดคุยกันได้แบบ Realtime ลูกค้าในเพจสามารถดูสินค้าที่สนใจได้เต็มที่เหมือนกับการที่เขาไปซื้อของที่ Shop เอง เป็นการขายของทางออนไลน์รูปแบบที่นิยมมากในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ครับ

เราได้เกริ่นกันมาแล้ว วันนี้ทางผมจึงได้วิธี แนวทางการ Live VDO สำหรับมือใหม่ เพื่อเพิ่มยอดขายทางออนไลน์ในตอนนี้ที่ยังคงมีวิกฤตโรคราดอยู่นะครับ เริ่มด้วย

1. กลุ่มเป้าหมายต้องชัดเจน เพื่อเลือกสไตล์ในเหมาะสม การเลือกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับเพจมีความสำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่อสไตล์ของการทำ LIVE VDO การสร้างบรรยากาศให้เหมาะกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายของเราด้วย เช่น การ Face Live รีวิวสินค้าประเภทเครื่องสำอางสำหรับวัยรุ่น ควรมีการพูดคุยเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ สี กลิ่น ส่วนผสม แทรกความรู้เกี่ยวกับส่วนผสมหลักของสินค้าเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ดูเหมือนการตั้งใจขายสินค้าแต่เพียงอย่างเดียว เป็นต้น
2. เตรียม Script บทพูด แนวทางการพูดให้ชัดเจน ก่อนเริ่มงาน เป็นการวางแผนการพูดคุยในแต่ละหัวข้อได้อย่างถูกต้องช่วยให้เราพูดไม่หลุดประเด็นที่ต้องการ ช่วยให้การพูดลื่นไหลไม่ติดขัด ทำให้เราสามารถส่งต่อข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้อย่างครบถ้วน จัดลำดับเรื่องที่จะพูดได้อย่างต่อเนื่อง
3. อุปกรณ์การ LIVE ต้องเตรียมให้ดี เช็คระบบการทำงานให้ครบถ้วน เพราะปัญหามักจะเกิดขึ้นได้เสมอเมื่อเราประมาท การเช็คอุปกรณ์ก่อนการ Live ทุกครั้ง จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาขึ้นได้เป็นอย่างดี การเช็คอุปกรณ์ในที่นี้ รวมไปถึงระบบ Internet ด้วยนะครับ เช็คให้ดี สัญญาณต้องแรงดีไม่มีตกนะครับ
4. จัดวางสินค้าที่จะขายให้เด่นชวนมอง ดึงดูดสายตาผู้ชมให้มาก จัดสินค้าเพื่อให้ผู้เข้าชมได้เห็นสินค้าว่าเรามีอะไรมาขายบ้าง มีตัวไหนที่เขากำลังสนใจอยู่หรือกำลังมองหาอยู่หรือไม่ จัดสินค้าที่เราจะเน้นใกล้ๆ มือ ช่วยให้เราหยิบจับสินค้าที่ต้องการขายได้สะดวกมากขึ้น และถ้าเป็นสินค้าที่มีการต้องทดสอบเกิดขึ้น ควรมีการเตรียมสินค้าที่สามารถใช้งานระหว่างไลฟ์ได้ด้วยนะครับ ทำให้เราไม่ต้องแกะสินค้าใหม่ได้
5. พูดถึงสินค้าที่ขายอยู่เรื่อยๆ พร้อมการปิดการขายให้ชัดเจน ควรมีการโชว์วิธีการใช้สินค้า แสดงวิธีการใช้งาน ทดลองใช้งานจริงผ่านไลฟ์ ให้ผู้ชมมองเห็น และเมื่อใช้งานจริงแล้วจะเหมือนกับที่โฆษณาไว้หรือไม่ เช่น สินค้ากลุ่มของใช้ อาจมีการสาธิตวิธีการประกอบและวิธีการใช้งานพร้อมบรรยายคุณสมบัติของสินค้าไปด้วย หากเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้า ควรมีการสวมใส่เป็นตัวอย่างพร้อมอธิบายสินค้าไปด้วย จะช่วยทำให้ผู้ชมตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
6. มีการสร้างบรรากาศในการไลฟ์อยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ผู้ชมเบื่อ ดึงคนไม่ให้กดออกจากไลฟ์ อาจมีการเปิดเพลงคลอเพื่อสร้างอรรถรสในระหว่างการไลฟ์สดไม่ควรปล่อยให้การ Face Live ของเราอยู่ในความเงียบ เพราะเสียงเพลงจะช่วยสร้างความสนุกสนานเป็นกันเอง ลดช่องว่างระหว่างผู้ดำเนินการไลฟ์และผู้ชม  นอกจากนี้อย่าลืมว่าผู้ดำเนินการไลฟ์เองก็เป็นตัวแสดงหลักที่ผู้ชมให้ความสนใจ ไม่ว่าเราจะพูดอะไร จะทำอะไรล้วนแล้วแต่อยู่ในสายตาของผู้ชมตลอดเวลา ลีลาของการดำเนินการไลฟ์มีส่วนในการดึงผู้ชมให้อยู่กับเราจนจบ บางครั้งผู้เข้าชมมีการติดตามเพราะสนใจลีลาการไลฟ์และตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะชื่นชอบและอยากมีส่วนร่วมกับผู้ไลฟ์อีกด้วย
7. เพิ่มการจัดกิจกรรมระหว่างไลฟ์ ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและเพิ่มจำนวนผู้ชมให้มากขึ้น เพิ่มการร่วมสนุกกับผู้ชมในช่วงก่อนเริ่มเข้าเนื้อหา และในระหว่างการไลฟ์ สำหรับการจัดกิจกรรมในช่วงก่อนการเข้าสู่การแนะนำสินค้าและบริการนั้นอาจเพื่อเว้นช่วงในการโปรโมทให้ผู้ติดตามช่วย Like & Share และแท็กเพื่อน ให้เข้าชมไลฟ์  มีการแจ้งเรื่องของรางวัลหรือโปรโมชั่นดีๆ มาเป็นแรงจูงใจให้ผู้ชมยังคงติดตามไลฟ์อยู่ แต่ควรมีการจัดกิจกรรมร่วมสนุกคั่นเวลาเป็นช่วงๆ ไป เพื่อดึงให้ผู้เขาชมติดตามไลฟ์ของเราไปจนจบ ในช่วงของการจัดกิจกรรมร่วมสนุกควรสร้างบรรยากาศเป็นกันเอง สนุกสนาน  มีความลื่นไหลเป็นธรรมชาติ มีลูกเล่นผู้เข้าร่วมกิจกรรม
8. มีการ Engagement ปฎิสัมพันธ์กับผู้ชมอยู่เรื่อยๆ เช่น ผู้ดำเนินการไลฟ์กล่าวทักทายรายชื่อผู้ที่เข้ามาชมไลฟ์ในตอนนั้น มีการถามและตอบ มีการสื่อสารกันอยู่ระหว่างผู้ดำเนินการไลฟ์และผู้ชมไลฟ์อยู่เสมอ ช่วยให้ผู้ชมไลฟ์รู้สึกถึงความอบอุ่น และความใส่ใจ เป็นโอกาสช้วยให้ผิดการขายได้อีกด้วยนะครับ

สรุป แบรนด์และร้านค้าเองต้องมีการสื่อสารให้มากขึ้นผ่านทาง Social Media ทั้งจาก Facebook, Instagram, Twitter หรือสื่อออนไลน์ใหม่ๆ ให้มากขึ้น ปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยี เพื่อที่แบรนด์ของคุณยังสามารถอยู่ได้ในยุคที่เปลี่ยนไปนี้ได้ และการทำ Facebook Live เองก็เป็นอีกทางเลือก ที่ช่วยเพิ่มยอดขายทางออนไลน์ ในสถานการณ์ที่ผู้คนกลัวต่อโรคระบาดตอนนี้ได้ และปัจจุบันผู้คนมีอัตราการตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านการรับชมไลฟ์มากกว่าการตัดสินใจซื้อสินค้าจากการโพสภาพนิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสามารถมองเห็นสินค้าและวิธีการใช้งานจริง สามารถสอบถามข้อมูลต่างๆ กับผู้ไลฟ์แบบ Real-time และยิ่งไปกว่านั้น ทาง Facebook เองก็ยังให้ความสำคัญกับ Live VDO มากกว่า Video Content ธรรมดา เพราะมีความสดใหม่มากกว่า เพิ่มการเข้าถึงผู้คนก็จะมีสูงกว่าอีกด้วย และนั่นหมายถึงร้านค้าของเราจะมีผู้เข้าถึงได้ง่ายมากกว่า มีคนติดตามมากขึ้น และสามารถขายสินค้าได้มากขึ้นอีกด้วยนะครับ

หากเพจของคุณกำลังมองหา Partner ที่จะช่วยคุณสร้างแบรนด์ สร้างคอนเท้นท์ที่ดี พร้อมการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ และพร้อมให้คำปรึกษา ให้ Clisk Thailand ของเราช่วยสร้างแบรนด์ของคุณได้นะคะ ติดต่อคลิสค์ได้ที่ 0-2060-6977 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00 น. – 18:00 น.