เพิ่มยอดจอง-ยอดขาย! เทคนิคทำ Line Ads ให้ธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหารโตไว

Feb, 06, 2025
News

ก่อนจะไปดูเทคนิคทำ Line Ads ให้ธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหารโตไว เรามาดูสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยกันก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง?

สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากการระบาดของ COVID-19 ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปี 2024 (มกราคมถึงกรกฎาคม) ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 20.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 36 ล้านคนภายในสิ้นปีที่ผ่านมา โดยการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทาง เช่น การยกเลิกข้อกำหนดการแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือผลตรวจ COVID-19 ก่อนเข้าประเทศ ได้ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยมากขึ้น

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้วางแผนยุทธศาสตร์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง และส่งเสริมการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สรุปโดยรวมแล้ว แนวโน้มการท่องเที่ยวในประเทศไทยกำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคง ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและการปรับตัวของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ขอบคุณข้อมูลจาก: https://tatreviewmagazine.com/article/thailand-tourism-trends-2025/?utm_source=chatgpt.com

แล้วจะดันยอดขายให้ธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหารด้วยการทำ Line Ads อย่างไรได้บ้าง?

เลือกวัตถุประสงค์ให้ตรงกับความต้องการของแบรนด์
การเลือกวัตถุประสงค์ (Objective) ของ Line Ads ให้ตรงกับความต้องการของแบรนด์ท่องเที่ยวและร้านอาหารนั้นสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้การโฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถพิจารณาตามเป้าหมายหลักของธุรกิจได้ดังนี้

1.1 วัตถุประสงค์ในการสร้างการรับรู้ (Awareness)
เหมาะสำหรับแบรนด์ใหม่ หรือโปรโมทแคมเปญใหญ่

Brand Awareness: สร้างการรับรู้ในวงกว้าง ให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น
Reach: เน้นการเข้าถึงผู้คนจำนวนมากที่สุดในกลุ่มเป้าหมาย
ตัวอย่าง:
เปิดตัวรีสอร์ทใหม่ หรือร้านอาหารใหม่ในพื้นที่ท่องเที่ยว
โปรโมทเทศกาลอาหารพิเศษ หรือแคมเปญท่องเที่ยวในฤดูกาลสำคัญ

1.2 วัตถุประสงค์ในการพิจารณา (Consideration)
เหมาะสำหรับ: การกระตุ้นความสนใจและสร้างความต้องการใช้บริการ

Traffic: ส่งคนไปยังเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, หรือหน้าจองออนไลน์
Engagement: เพิ่มการมีส่วนร่วม เช่น ไลก์ แชร์ คอมเมนต์ บนโพสต์
Video Views: ดึงดูดความสนใจผ่านวิดีโอโปรโมท เช่น รีวิวที่พัก/อาหาร
Lead Generation: เก็บข้อมูลลูกค้า เช่น อีเมล เบอร์โทร สำหรับการติดตามต่อ
ตัวอย่าง:
โฆษณาแพ็คเกจท่องเที่ยวพร้อมลิงก์จองห้องพัก
โปรโมทวิดีโอรีวิวเมนูใหม่ของร้านอาหาร
เก็บรายชื่อผู้สนใจทัวร์ผ่านแบบฟอร์มลงทะเบียน

1.3 วัตถุประสงค์ในการกระตุ้นการซื้อ (Conversion)
เหมาะสำหรับ: เพิ่มยอดขาย หรือการจองบริการโดยตรง

Conversions: กระตุ้นการจองที่พัก, จองโต๊ะ, หรือการสั่งอาหารออนไลน์
Sales (สำหรับ E-Commerce): เพิ่มยอดขายโดยตรงผ่านร้านค้าออนไลน์
App Installs: กระตุ้นให้ดาวน์โหลดแอปจองท่องเที่ยวหรือแอปส่งอาหาร
ตัวอย่าง:
แคมเปญโปรโมทส่วนลดพิเศษเมื่อจองห้องพักออนไลน์
โฆษณาดันยอดจองร้านอาหารในช่วงเทศกาล
โปรโมทแอปจองทัวร์พร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ติดตั้งใหม่

ที่สำคัญการโฆษณาที่ดี อย่าลืมว่า โครงสร้างโฆษณาต้องแข็งแรงด้วย เช่น 1 แคมเปญ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มโฆษณา ได้แก่ กลุ่มสนใจท่องเที่ยว, กลุ่มสนใจโรงแรม, กลุ่มสนใจอาหาร และใน 3 กลุ่มโฆษณานี้ อาจจะมีการทำโฆษณา Creative อย่างละ 3 ตัว เพื่อจะได้วัดผลด้วยว่ากลุ่มโฆษณาและโฆษณา Creative ไหน ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ตามวัตถุประสงค์โฆษณาที่เราได้ตั้งค่าไว้

สร้างกลุ่มเป้าหมาย Lookalike หาลูกค้าใหม่ที่คล้ายกับคนเก่า
ก่อนจะทำ Lookalike ได้นั้น ข้อมูลเบื้องต้นต้องมีความแข็งแรงก่อน โดยทาง Clisk แนะนำว่า ควรเลือกการทำ Lookalike จากกลุ่มเป้าหมายกำหนดเอง (Custom Audience) เพื่อช่วยให้โฆษณาแม่นยำยิ่งขึ้น
2.1 สร้างกลุ่มเป้าหมายจากเพื่อน, Chat Tag, Impression
2.2 สร้างกลุ่มเป้าหมายจากคนที่คลิกรูปจากแคมเปญ “เข้าชมเว็บไซต์” หรือ “การเข้าถึง”
2.3 สร้างกลุ่มเป้าหมายจากการอัปโหลดข้อมูล เบอร์โทร อีเมล ของลูกค้าที่เคยใช้บริการขึ้นไปที่ระบบ Line Ads Manager ขอบอกเลยว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่แม่นยำที่สุด
2.4 สร้างกลุ่มเป้าหมายจากการรับชมวีดีโอในระดับ 50% – ดูจบ เพื่อเก็บคนชมวีดีโอที่มีคุณภาพ
เทคนิคการทำ Lookalike Audience ให้แม่นยำ! แนะนำที่ 1-3% ได้เลย
Key Message ของชิ้นงานเห็นชัด เข้าใจง่าย
เฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหารและการบริการข้อมูลจาก LINE ประเทศไทย (เดือน ม.ค. – ส.ค. 67)
3.1 วิดีโอ 9:16 CTR 0.09%
3.2 รูปภาพ 1200×628 CTR 0.24%
3.3 รูปภาพสไลด์ 1080×1080 CTR 0.66%

โดยเทคนิคสร้างชิ้นงานโฆษณาให้ปัง มีตามนี้เลย

ชัดเจนและกระชับ (Clear & Concise) ใช้ประโยคสั้นๆ ที่สื่อสารได้ตรงจุดภายใน 1-2 วินาที หลีกเลี่ยงข้อความยาวหรือซับซ้อน เพราะผู้ชมจะไม่หยุดอ่านนาน เห็นภาพจริง พูดถึงปัญหาก่อน และต้องเข้าใจความต้องการลูกค้าจริงๆ เช่น “พักผ่อนริมทะเลในราคาพิเศษ จองวันนี้ ลดทันที 30%!” หรือ “จองโต๊ะล่วงหน้า รับฟรี! เครื่องดื่มสุดพิเศษ”
เน้นจุดขายหลัก (Highlight Unique Selling Point – USP) บอกให้ชัดเจนว่า ทำไมลูกค้าต้องเลือกคุณ อาจเน้นจุดเด่น เช่น วิวสวย ราคาโปรโมชัน เมนูพิเศษ หรือประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เช่น “บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลสดใหม่ ไม่อั้นเพียง 499 บาท” หรือ “รีสอร์ทวิวทะเล 180° พักผ่อนแบบส่วนตัว ใกล้กรุงเทพฯ!”
กระตุ้นให้ตัดสินใจ (Create Urgency & FOMO) ใช้คำกระตุ้น เช่น “ด่วน!”, “จำนวนจำกัด”, หรือ “หมดเขตเร็วๆ นี้” เพื่อเร่งการตัดสินใจ เทคนิค FOMO (Fear of Missing Out) ช่วยให้คนรู้สึกไม่อยากพลาดโอกาส เช่น “รับส่วนลด 50% สำหรับ 50 คนแรกเท่านั้น!”
มี Call-to-Action (CTA) ชัดเจน จบด้วยการบอกให้ลูกค้าทำอะไรต่อ เช่น “จองเลย”, “คลิกดูเมนู”, หรือ “รับส่วนลดทันที” คำกระตุ้นที่ชัดเจนช่วยเพิ่มโอกาสในการคลิกโฆษณา เช่น “จองห้องพักวันนี้ รับส่วนลดทันที คลิกเลย!”

สรุปแล้ว!
การเลือกวัตถุประสงค์ (Objective) สำหรับ Line Ads ควรสอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหาร โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ การสร้างการรับรู้ (Awareness) เหมาะสำหรับโปรโมทแบรนด์หรือแคมเปญใหม่ เช่น การเพิ่มการเข้าถึง (Reach) เพื่อให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น การกระตุ้นความสนใจ (Consideration) มุ่งเน้นให้ผู้คนสนใจแบรนด์มากขึ้น เช่น การเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) หรือการดูวิดีโอ (Video Views) และสุดท้ายคือการกระตุ้นยอดขาย (Conversion) เช่น การเพิ่มการจองห้องพักหรือยอดขายผ่านแอปพลิเคชัน (Conversions, Sales)

สำหรับการสร้าง Key Message ที่ดึงดูดใจ ควรสื่อสารให้ชัดเจนและกระชับ เพื่อให้เข้าใจได้ภายในไม่กี่วินาที เน้นจุดขายหลัก (USP) ที่ทำให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่ง เช่น ทำเลที่ตั้ง บริการพิเศษ หรือโปรโมชั่นพิเศษ ควรมีการกระตุ้นให้ตัดสินใจด้วยการสร้างความเร่งด่วน เช่น ใช้คำว่า “ด่วน!” หรือ “จำนวนจำกัด” รวมถึงการใส่ Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจน เช่น “จองเลย” หรือ “คลิกเพื่อรับส่วนลด” อีกทั้งควรปรับข้อความให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร

สูตรสำเร็จในการสร้าง Key Message คือ [ข้อเสนอที่น่าสนใจ] + [จุดเด่นของแบรนด์] + [การเร่งการตัดสินใจ] + [คำกระตุ้นให้คลิก (CTA)] ตัวอย่างเช่น “พักหรูริมทะเล ลด 40% เฉพาะวันนี้! จองด่วนก่อนเต็ม” หรือ “บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดสดใหม่เพียง 499 บาท จองโต๊ะเลยก่อนหมดโปร” ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ