December 12, 2019 News

[แจกฟรี] คู่มือวัดผลทำ Conversion ใน Facebook Ad ให้ได้คุณภาพ

เชื่อเลยว่าใครหลายคนที่ทำ Facebook Marketing อยู่ คงจะเจอกับปัญหาที่ว่าการทำ Facebook Marketing นั่นทำไปแล้วทำไมวัดผลยากจัง วันนี้ทีม Clisk เลยขอมาพูดเรื่อง Facebook Ad อีกหนึ่งตัวที่แน่นอนว่า Metric ที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ที่หลายแบรนด์ต้องการวัดยอดขายต้องใช้ Objective นี้อย่างแน่นอน นั่นก็คือ Conversion นั่นเอง แปลให้เข้าใจง่ายก็คือเป็นการซื้อโฆษณาเพื่อทำในสิ่งที่เราต้องการ เช่น การสมัครบริการ กรอกรายละเอียด ซื้อสินค้ากับแบรนด์ หรือทำอะไรก็ได้ตามเป้าหมายที่เราต้องการ

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ เช่น Lazada เปิดเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ และทำการตลาดผ่าน Google / Facebook เป็นหลัก ค่าคอนเวอร์ชั่นของเค้าจึงเรียกว่า Orders ดังนั้นจุดเป้าหมายในการทำธุรกิจของที่นี่จึงมีความจำเป็นจะต้องเน้นให้เกิดจำนวนยอดขายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

1. ก่อนจะวัดผล ต้องมีฐานทัพที่ดีอย่าง Facebook และเว็บไซต์ก่อน
หากคุณคิดจะทำการตลาดเพิ่มยอดขายด้วย Facebook Ad อย่าง Conversion คุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมี Official Website หรือเว็บไซต์ธุรกิจหลักของคุณก่อน เพื่อให้วัดผลได้ง่ายมากขึ้น และนอกจากเว็บไซต์แล้ว การทำ Conversion Ads จะไม่เหมือนกับ Objective โฆษณาตัวอื่นๆ ตรงที่คุณจะต้องจ้างนักสืบอย่าง Facebook Pixel มาทำการสอดส่องพฤติกรรมของลูกค้าของคุณว่าเขาเห็นโฆษณาตัวนี้และไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณที่หน้าไหนและเกิด Action อะไรหรือไม่

2. เมื่อติดตั้งแล้ว เรื่อง Conversion Rate ก็สำคัญ
สำหรับตัว Conversion Rate หลายคนคงจะคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว มันก็คือจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่จะบอกคุณว่าจากจำนวนคลิกทั้งหมดแปลงเป็นยอดขายได้ทั้งหมดกี่คน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือช่วงระยะแคมเปญของคุณนั่นเอง
เช่น คนคลิกเข้าเว็บไซต์ของคุณผ่าน Conversion Ad 1,000 คน พวกเขาเหล่านั้นให้อีเมลและเบอร์ติดต่อคุณจำนวน 100 คน จะคิดว่าๆ Conversion Rate อยู่ที่ 10% นั่นเอง ส่วนสูตรการคิด Conversion Rate สามารถดูได้ตามด้านล่างนี้เลย

3. เมื่อคิด Conversion Rate แล้ว การ Optimization บน Landing Page ก็ควรค่าแก่การโฟกัสเช่นกัน
แน่นอนว่าเมื่อคุณลองคำนวณผลของ Conversion Rate ดูแล้ว เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ได้ คุณก็ควรพัฒนา Landing Page ให้ดีขึ้นไปด้วย ให้สามารถสร้าง Users ที่คลิกผ่านโฆษณามายังเว็บไซต์เป็นลูกค้าของเราให้ได้ ซึ่งเราก็ไม่สามารถทราบได้ว่ารูปแบบ Landing Page แบบไหนที่ดีที่สุด แต่หลักๆ จากที่ Facebook แนะนำก็จะมีดังนี้

3.1 หน้า Landing Page ควรมี Call To Actions (CTA) เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างมาก เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่วัดยอดขายได้ดีที่สุด และช่วยทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นไปอีก อย่างเช่น มีปุ่มเปรียบเทียบราคา, ซื้อสินค้าเลย เป็นต้น

3.2 เว็บไซต์จะต้องตรงกับสิ่งที่คุณโฆษณา มันคงน่าแปลกใจน่าดูถ้าคุณทำโฆษณาว่าขายโทรทัศน์ลดราคาถึง 50% แต่เมื่อคนเข้าไปแล้วกลับไม่เห็นโปรโมชั่นดังกล่าวเลย มันก็จะทำให้คนสามารถที่จะออกเว็บไซต์ (Bounce) ออกได้ในทันที เพราะฉะนั้น Creative Artwork ควรสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา Mood & Tone ของภาพไม่ควรต่างกันมากเพื่อง่ายต่อการสื่อสารกับลูกค้า

3.3 เว็บไซต์ที่ดีต้องลดขั้นตอนให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เขาตัดสินใจออกจากเว็บไซต์เราไปก่อน เรียกง่ายๆ ก็คือลดขั้นตอนในการปิดการขายให้เร็วนั่นเอง ข้อมูลหลักๆ ที่คุณควรจะได้ เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์และอีเมลของเขา

4. หากแคมเปญมีระยะเวลานานควรเปลี่ยนรูป/หรือคำโปรย เพื่อให้น่าดึงดูดตลอดเวลา
เพราะถ้าแคมเปญคุณยาวถึง 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน คนที่เห็น Ad แบบเดิมๆ ของคุณก็จะไม่ดูซ้ำอีก และกลายเป็นว่าทำให้ลูกค้ารู้สึก Annoy กับเขาอีกด้วย ลองดูตัวอย่าง Ad จาก การทดลองของ Adpresso หรือตัวอย่าง Ad ของทาง Adespresso ที่รวบรวมไว้เป็นไอเดียให้มากกว่า 500 แบบก็ได้ค่ะ

5. การวัดผลที่ดีอย่าลืมเช็กใน Google Analytics ควบคู่กันไปด้วย
อย่างที่บอกไปข้อที่ 1 การทำ Conversion Ads+เว็บไซต์เป็นของคู่กันเสมอ และที่สำคัญหากมีเว็บไซต์แต่ไม่ได้ติดตั้ง Google Analytics ก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นหากคุณมีเว็บไซต์และให้คนซื้อของผ่านเว็บไซต์ของคุณได้แล้ว การใช้ Tool อื่นเพื่อวัดผลควบคู่กันไปด้วย เช่น Google Analytics อาจช่วยบอกคุณได้มากกว่าว่า คนส่วนมากชอบดูสินค้าอะไร หรือ ดู Content ไหนของเรานานเป็นพิเศษ คุณสามารถเข้าไปดูได้ที่ 
Acquisition > All Traffics > Source/Medium เพื่อดูว่า Traffic หรือ Conversion ของเรามาจากไหน

ซึ่งหากใครที่ดู Google Analytic ไม่คล่องหรือไม่ทราบว่าแต่ละคำศัพท์แปลว่าอะไร ก็ลองศึกษาเองได้ง่ายๆ เลยค่ะ

สุดท้ายหากคุณวัดผลออกมาแล้ว ไม่เป็นไปตาม KPI ที่คุณคาดหวังไว้ คุณอาจจะต้องลองย้อนกลับไปมองเรื่องธุรกิจ สินค้าและบริการของคุณด้วยว่าตอบโจทย์กับลูกค้าของคุณหรือไม่ หรือปรับเปลี่ยนลองสร้างโฆษณาแบบอื่นๆ เพื่อเป็นการทดสอบก็ช่วยทำให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นได้

หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยด้าน Social media marketing ในเรื่องของการทำโฆษณา Facebook Ads และพร้อมที่จะช่วยคุณสร้างแบรนด์ สร้างคอนเท้นท์ที่ดี พร้อมการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ ให้ Clisk Thailand ของเราช่วยสร้างแบรนด์ของคุณได้นะคะ ปรึกษาหรือต้องการติดต่อคลิสค์ >>คลิก<< หรือโทร 0-2060-6977 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00 น. – 18:00 น.

Ref:
https://neilpatel.com/what-is-conversion-optimization/

https://moz.com/learn/seo/conversion-rate-optimization

http://creativethirst.com/blog/what-is-conversion-rate-optimization/

https://www.quicksprout.com/thedefinitive-guide-to-conversion-optimization/



About the Author

Wahn: 【Senior Social Media Editor & Planner】CLISK ให้บริการ Social Media Marketing ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำ