รวบเดียวจบ! ทำความเข้าใจอัลกอริทึม TIKTOK
- Jun, 10, 2020
- News
ชั่วโมงนี้ หันไปทางไหนก็เจอแต่คนเล่น TikTok ยิ่งช่วง Work from home แบบนี้ ทำงานอย่างเดียวก็เบื่อแย่ หลายคนเลยหันมาเล่น Tiktok บางคนอาจจะงงว่าทำไม Tiktok ถึงเป็นที่นิยมในตอนนี้ เราต้องบอกเลยว่า เนื่องจาก TIKTOK เป็นแอปพลิเคชั่นในการสร้างสรรค์วิดีโอสั้นๆ ที่เน้นความสนุก ตลก ผ่อนคลายความเครียด ทำให้หลายๆคนโหลดมาลองใช้ ลองอัดคลิปสนุกๆระบายความเครียด รวมถึงหลายๆคนก็ดาวน์โหลดมาเพื่อรับชม ช่วยผ่อนคลาย สู้ความเครียดในช่วงโควิด-19 อีกด้วย ตอนนี้ใครไม่เล่นถือว่าเอ้าท์มากๆ แล้วนะคะ
ซึ่งที่มาแรงตอนนี้ทุกคนคงจะรู้กับที่สุดของการคัฟเวอร์ แม่สิตางค์ บัวทอง กับตำนานส้มหยุด หลายคนลิปซิ้งกันเป็นว่าเล่นและเหมือนเอามากๆ และคำที่ฮิตที่คุ้นหูจากแม่สิตางค์ บัวทอง ต้องยกให้กับประโยคนี้เลยค่ะ “ไม่จริง ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ ฉันใช้ภาษาไทยตลอด เพราะฉันคือคนไทย แล้วคนไทยแปลว่าอิสระ ฉันไม่ยอมไปเป็นทาสคุณหรอกค่ะ”
แต่วันนี้สิ่งที่ Clisk จะมาเล่าให้ฟังก็คือเรื่องของการทำความเข้าใจอัลกอริทึม TIKTOK ว่าการทำงานของ TIKTOK เป็นอย่างไร
- เป็นแบบ Personalization คือการใช้ AI และ Machine Learning ในการคัดวิดีโอว่าคลิปไหนควรช่วยดันให้คนเห็นเยอะๆ เนื่องจาก TikTok เป็นแอปที่เก็บข้อมูลเป็นอย่างดีนั่นเอง
- เมื่อมีการอัปโหลดวิดีโอใหม่ใน TIKTOK ระบบจะทำการแสดงวิดีโอนี้ให้กับผู้ใช้งานบางคน แบบที่แทรกไประหว่างวิดีโอยอดนิยมต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับชมหลากหลาย ไม่เบื่อ
- หลังจากนั้นระบบจะทำการวัด ว่าวิดีโอที่ลงไปนั้น มีผู้ชมมากน้อยแค่ไหน มีการดาวน์โหลด แชร์ แสดงความคิดเห็น หรือกดไลก์หรือไม่ อัตราส่วนเหล่านี้ ระบบ TIKTOK จะนำไปพิจารณาว่าควรจะแสดงวิดีโอนี้ให้คนเห็นมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งโดยปกติจะปรับให้วิดีโอเข้าถึงคนมากขึ้น เมื่อวิดีโอมียอด 1 ไลก์ต่อทุกๆ การรับชม 10 ครั้ง
- นอกจากนี้ ถ้าวิดีโอที่ปล่อยออกไป ได้รับการกดไลก์มากกว่า 40% ของยอดวิวภายในหนึ่งวัน วิดีโอนี้ก็จะถูกกระจายออกไปให้คนเห็นมากขึ้น
- ยิ่ง Clip/Sound ถูกเซฟเป็น Favorite ยิ่งเพิ่มการตอกย้ำของแบรนด์
- การใช้เพลงหรือแฮชแท็กที่ติดเทรนด์อยู่แล้ว จะทำให้อัตราการเข้าถึงนั้น มีความเร็วกว่ามากกว่าการสร้างใหม่ค่ะ หากใครอยากสร้าง original content ขึ้นมาใหม่อาจจะต้องเสริมเรื่องความโดดเด่นเเละความใช้งานง่ายเป็นหลักค่ะ
- การดูคลิปซ้ำใน TIKTOK ถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติมาก เพราะด้วยความที่คลิปมีเนื้อหาที่สั้น ทำให้หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจเนื้อหาในครั้งแรกที่ดู และบางครั้งอาจจะต้องดูวนหลายๆ รอบด้วยซ้ำไป การดูซ้ำจึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดว่าวิดีโอไหนควรโดนดันให้คนเห็นเพิ่ม
คราวนี้พอจะเริ่มเข้าใจเรื่องของอัลกอริทึม TIKTOK แล้วใช่ไหมคะ ส่วนแนวทางในการที่แบรนด์อยากจะทำคอนเท้นต์บน TIKTOK ทาง Clisk ขอยกตัวอย่างจาก Wokpoint เลยค่ะ ที่เอารายการของตัวเองที่ Rating ดีๆ มาตัดเป็นคลิปสั้นๆ หรือมุกตลกในรายการต่างๆ เพื่อเพิ่มการ Engagement จนไปถึงการ Follower แบรนด์ในที่สุด และถ้าคุณยังไม่มีไอเดียในการทำ content บนแบรนด์ของคุณ ขอให้จำ 3 ข้อนี้เพื่อผลิต content ที่มีคุณภาพและเสริมทัพให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รับรู้มากยิ่งขึ้นได้อีก
- คนดูเมื่อดูจบแล้วรู้สึกมีความสุขหลังดูจบ
- ในขณะที่ดูอยากจะกดไลก์ หรือคอมเมนต์อะไรบางอย่าง
- หลังจากดูจบ คนอยากจะนำไปทำตาม เต้นตาม ร้องตาม หรืออัดคลิปตามได้ อย่างเช่น แม่สิตางค์ บัวทอง เป็นต้นเลยค่ะ อันนี้เรียกได้ว่าเป็น case study ที่ทรงพลังสุดๆ
และอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่เรียกว่าไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ก็คือ #แฮชแท็ก ไม่ว่า Instagram หรือ Facebook เองก็ต่างพากันใช้ #แฮชแท็ก เพื่อสร้างการดึงดูดให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายที่สุด สำหรับ #แฮชแท็ก บน TIKTOK นั้น แนะนำให้ใช้ #แฮชแท็ก ที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะแฮชแท็ก จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนพบเห็น และยังช่วยเพิ่มโอกาสให้วิดีโอเป็นที่รู้จักมากขึ้นได้ หลายครั้ง แฮชแท็กก็เป็นแหล่งของไอเดียดีๆ เราสามารถเลือกดู แฮชแท็ก ที่ขณะนั้นกำลังเป็นที่นิยม นำมาใช้เป็นโจทย์ตั้งต้น เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องได้กับแบรนด์ของคุณก็เป็นได้
Clisk ขอเสริมอีกนิดหนึ่งว่าผู้ใช้งานของ TikTok ในประเทศไทย ณ ปัจจุบันส่วนใหญ่คือคนรุ่นใหม่ตั้งแต่วัยเรียนไปจนถึงกลุ่ม First Jobber โดยแจกแจงรายละเอียดได้ดังนี้
- 48% ช่วงอายุ 18-24 ปี
- 36% ช่วงอายุ 13-17 ปี
- 14% ช่วงอายุ 25-34 ปี
- 1% ช่วงอายุ 35-44 ปี และช่วงอายุ 45-55 ปี
- 0% ช่วงอายุ 55 ปีขึ้นไป
- ผู้หญิง 75% และผู้ชาย 25%
- ส่วนใหญ่อาศัยในกรุงเทพฯ 59%
หากแบรนด์ของคุณมีความสนใจในการทำการตลาด TIKTOK การซื้อโฆษณาในช่องทาง TIKTOK หรือการสร้าง Content บน TIKTOK เราขอเป็นผู้ช่วยด้าน Social media marketing ที่จะช่วยคุณสร้างแบรนด์ สร้างคอนเท้นท์ที่ดี พร้อมการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ ให้ Clisk Thailand ของเราช่วยสร้างแบรนด์ของคุณได้นะคะ ปรึกษาหรือต้องการติดต่อคลิสค์ >>คลิก<< หรือโทร 0-2060-6977 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00 น. – 18:00 น.
โดยประเภทและรูปแบบโฆษณาที่ปรากฏบน Standard Media แยกออกเป็น
- Brand Takeover แสดงโฆษณาวิดีโอตอนสั้น 3-5 วินาทีก่อนเข้าหน้าโฮม เหมาพื้นที่เลย ซึ่งคนทั้งแอปพลิเคชันจะได้เห็นแน่นอน
- TopView อยู่ในตำแหน่งเดียวกับ Brand Takeover มีความยาวอยู่ที่ 60 วินาที เหมาะกับการเล่าเรื่องยาวขึ้นและมีเสียงวิดีโอ
- In-Feed Ads แสดงโฆษณาวิดีโอของแบรนด์นั้นๆ บนหน้าฟีดผู้ใช้งานแต่ละราย
ขณะที่รูปแบบโฆษณา Customized Solutions เป็นโฆษณาที่ทาง TIKTOK ได้มีการปรับรูปแบบและลักษณะลูกเล่นให้เหมาะสมกับตัวแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ ประกอบด้วย
- Hashtag Challenge เช่น การทำงานร่วมกันระหว่างศิลปินและแบรนด์เพื่อชวนให้ผู้ใช้งานเกิด Awareness กับแบรนด์ เช่น กรณีที่ BLACKPINK ทำร่วมกับ Samsumg
- Branded Effect เช่น การทำเอฟเฟกต์ฟิลเตอร์เป็นโลโก้แบรนด์ โดยเอฟเฟกต์ทุกตัวจะสามารถเปิดใช้งานได้ผ่านการทำท่าต่างๆ เพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์กับตัวแบรนด์โดยตรง เพื่อให้ผู้ใช้งานกลุ่ม User Generated Content เกิดการทำงานในลักษณะ Co-creation กับแบรนด์มากที่สุด
Credit :
https://veed-grow-3.herokuapp.com/grow/reverse-engineering-how-tiktok-algorithm-works/
www.yrcharisma.com
Enhance your sales and marketing efficiency in Southeast Asia with our expert social media team—contact us today for professional support.
Search
Categories
Recent Topics
- AI in Marketing Trends 2025 เทรนด์การใช้ AI กับการทำการตลาดปี 2025
- Behavioral Design for Better Marketing ออกแบบพฤติกรรมเพื่อการตลาดที่ดีกว่า
- ทริค! การสร้างแบรนด์และทำอย่างไรให้ชนะใจลูกค้า
- ดึงดูดลูกค้าด้วย Google My Business บริการฟรีจาก Google ที่ทุกธุรกิจควรรู้จัก!
- ถอด! โครงสร้าง 6Cs ที่จะช่วยสร้าง Ads ที่ขายของได้เเละคนชอบ