เจาะลึก Algorithm TikTok ปี 2025 ทำยังไงให้ค่า Ads ถูกลง?

ในปี 2025 ค่าโฆษณา TikTok มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นตามจำนวนผู้ใช้และการแข่งขันทางการตลาดที่ดุเดือด ทำให้หลายแบรนด์และนักยิงแอดต้องเผชิญกับ ค่า Ads แพง แต่ยอดขายไม่กระเตื้อง คำถามคือ “จะยิงโฆษณา TikTok ยังไงให้ได้ผลดีแต่ใช้งบน้อย?” บทความนี้มีคำตอบ! เราจะพาคุณไปเจาะลึก เทคนิคลดค่าโฆษณา TikTok พร้อมกลยุทธ์ ปรับ CPM และ CPC ให้ถูกลง โดยไม่ต้องลดคุณภาพโฆษณา ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือสายยิงแอดมือโปร เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณ ยิง Ads ปังแต่ประหยัดงบ ได้แน่นอน!

มาดูกันว่าปี 2025 นี้ ต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ TikTok Ads คุ้มค่าที่สุด!

1. Ads แพงไม่ควรรีบปิดทันที คำถามที่มักโดนถามบ่อย “Ads แพงควรปิดเลยไหม” ขอตอบเลยว่า ยังไม่ควรปิดทันที ทั้งนี้ควรดูเรื่องปรับงบและรูปแบบโฆษณา ลดงบต่อวันเพื่อทดสอบว่าค่าโฆษณาจะลดลงหรือไม่, พิจารณาช่วงเวลาและวันยิงแอด บางช่วงเวลาคู่แข่งเยอะ ทำให้ค่า Ads แพง ลองปรับเวลายิงดู, กรณีที่ยิงโฆษณามาเกิน 5-7 วัน แล้ว Ads อยู่ดีๆ มาแพง 1-2 วันต่อมา แนะนำว่าให้ดูผลลัพธ์ต่อไปก่อน เผื่อช่วงนั้นอาจจะเป็นช่วงที่คู่แข่งมีการ bid แข่งก็เป็นได้หรืออาจจะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจแย่ แนะนำว่าให้ลดงบ 20%-30% ไปก่อนแล้วค่อยดูผลลัพธ์อีกที แต่ถ้า Ads แพงมา 7-8 วันแล้ว ค่าโฆษณาไม่ลดลงสักที อันนี้แนะนำให้ปิดทันที
2. Retargeting ควรเปิดตลอดเวลาไหม? คำตอบอาจจะไม่เป็นการคอนเฟิร์มตายตัว แต่แนะนำว่าควรดู Target Volume ของคุณก่อนว่ามีขนาดใหญ่มากน้อยแค่ไหน เช่น กลุ่ม Add to cart, กลุ่ม Completed Payment โดยปกติหากแบรนด์ใหญ่ๆ จะมี Volume เต็มที่หลักหมื่นจากประสบการณ์ที่ทางเราได้ทำโฆษณามา ดังนั้นหากคุณยิงโฆษณาเป็น Daily วันละ 1,000 บาท เพียงแค่ 3-5 วันก็กวาด Target กลุ่มเหล่านี้หมดแล้ว แถม Frequency ต่อการเห็นโฆษณา 1 คนก็มีความถี่สูงอีกด้วย ดังนั้นบอกเลยว่าค่าโฆษณาของคุณแพงแน่นอน การใช้กลุ่ม Retarget แนะนำว่าให้ใช้ช่วงที่มีโปรโมชั่น ยิงสั้นเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ (3-7 วัน) ใช้คอนเทนต์เร่งการตัดสินใจ เช่น ส่วนลด, โปรโมชั่น, สินค้าใกล้หมด หรือว่าเปิดช่วง Payday ในช่วงที่คนเงินเดือนออกก็น่าจะดีกว่า เพราะมีโอกาสได้ ROAS ที่สูงขึ้นด้วย
3. หาก Optimize ในรูปแบบ GMVmax แนะนำให้ทำวีดีโอที่ติดตะกร้าโดยประมาณ 7-10 วีดีโอ เพื่อให้การนำส่ง Ads ได้ราคาที่ถูก และควร bid เรื่องของ ROI ประมาณที่ 5 เพื่อให้ Ads เปิดการมองเห็นได้มากที่สุด เพราะหาก bid ตัวเลขที่มากกว่านั้น Ads ของคุณอาจจะไม่ถูกนำส่งหรือนำส่งได้น้อย
4. ช่วงมีกระแสแรงๆ ควรอัด Ads เพื่อให้คนหันมาดูสินค้าของเราดีหรือไม่? คำตอบคือ ทางทีมเราไม่แนะนำ กรณีเช่น ข่าวกระแสเรื่องดราม่าดารา คนไทยก็มักจะไปเสพข่าวกระแสมากกว่าแบรนด์เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นการยิงโฆษณาเพิ่มขึ้นในช่วงนั้น เพื่อให้คนเห็นโฆษณาของเรามากขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ เพราะ Moment นั้นลูกค้าของเราเขาพร้อมที่จะสไลด์โฆษณาของเราผ่านไปทันที แถมไม่ได้ Awareness อีกด้วย
5. หากอยากจะยิงโฆษณาให้ผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้น วิธีการทำให้ค่า Ads ถูกลง แนะนำว่า ใช้เทคนิคเช่น Hook 3 วินาทีแรก ที่ดึงดูด หรือใช้ Call-to-Action (CTA) เช่น “ถ้าเห็นด้วย กดติดตามเลย!”, ใช้ Objective ที่ถูกต้อง ใน TikTok Ads Manager เลือก “Community Interaction” หรือ “Followers Growth” (ถ้ามี) แทนที่จะใช้ Traffic หรือ Conversions เพื่อเน้นเพิ่มผู้ติดตามโดยตรง และแนะนำว่าไม่ควรเพิ่มการ bid และสุดท้ายคือ content ต้องมีคุณภาพน่าสนใจ เน้นเข้าถึง Lifestyle กลุ่มเป้าหมายที่คุณวางไว้
6. การยิงโฆษณาควรเลือกช่วงเวลาหรือไม่ควรเลือกช่วงเวลา อันไหนค่าโฆษณาถูกกว่ากัน? คำถามนี้ทางทีมก็โดนสอบถามมาเยอะ งั้นขอให้ข้อมูลตามนี้เพื่อให้แบรนด์ได้ลองวิเคราะห์การเลือกใช้กันเองดีกว่า เช่น เลือกช่วงเวลา (Dayparting) เน้นยิง Ads ช่วง Prime Time ที่กลุ่มเป้าหมายออนไลน์เยอะ → เพิ่มโอกาสในการคลิก & ติดตาม ช่วยควบคุมงบ เพราะจะไม่สิ้นเปลืองในช่วงเวลาที่ Engagement ต่ำ แต่ข้อเสียคือ ช่วง Prime Time มีการแข่งขันสูง ทำให้ CPM/CPC อาจสูงขึ้น อาจพลาดผู้ชมที่ออนไลน์นอกเวลาทั่วไป แต่ยังเป็นกลุ่มเป้าหมาย และไม่เลือกช่วงเวลา (Always-On) ระบบอัลกอริทึมของ TikTok สามารถหาช่วงเวลาที่มีค่าโฆษณาถูกเองได้ (โดยเฉพาะช่วงที่คู่แข่งหยุดยิง Ads) กระจายการมองเห็นตลอดวัน → เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมออนไลน์ต่างกัน ข้อเสีย การวัดผลอาจยากขึ้นเพราะต้องวิเคราะห์ทั้งวัน
7. ขอเพิ่มอีกเทคนิคเล็กน้อยก่อนจบบทความนี้ แนะนำให้ใช้ เสียงฮิต + Hashtag เทรนด์ เพื่อเพิ่ม Organic Reach ก่อน Boost Ads ก็จะช่วยได้เช่นกัน