เทคนิคการทำ Real Time Marketing ที่ไม่ใช่แค่ “ความไว” แต่จะทำอย่างไรให้เกิด Real Impact

Real Time คงเป็นศัพท์ที่แบรนด์หรือชาวเอเจนซี่ได้ยินกันบ่อยๆ ซึ่งการทำการตลาดแบบ Real Time คือ การจับกระแสที่นิยมอยู่ในขณะนั้นหรือเหตุการณ์ที่คนกำลังพูดถึงมาเชื่อมโยงกับแบรนด์ และครีเอทคอนเทนต์ในรูปแบบของตนเอง 

โดยการทำตลาดแบบ Real Time Marketing เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่หลายๆ แบรนด์หันมาให้ความสนใจและพร้อมที่จะกระโดดเข้าไปอยู่ในกระแส แต่ทั้งนี้การทำการตลาดแบบ Real Time ไม่เพียงแต่จะต้องใช้ความเร็ว ความไว แต่ยังประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้คอนเทนต์นั้นเกิดประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อแบรนด์ 

วันนี้คลิสค์ขอพาทุกคนมาทำความเข้าใจความหมายของการทำ Real Time Marketing ให้มากขึ้นและเปิดมุมมองใหม่ๆ จาก 3 Marketer ได้แก่ คุณนารีรัตน์ แซ่เตียว CEO & Co-Founder, InsightERA , คุณชนินทร์ นาคะรัตนากร Head of Marketing, Swensen’s และคุณเจริญชัย บำรุงวงศ์ทอง Marketing Director, Burger King ในงาน MITCON2024 (MARKETING INSIGHT & TECHNOLOGY CONFERENCE 2024 พร้อมแชร์เฟรมเวิร์กที่จะช่วยให้การทำ Real Time Marketing เกิด Real Impact มากที่สุด!

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับ Real Time Marketing ที่ไม่ใช่แค่ “ทำให้ทัน ทำให้เสร็จ ทำให้ไว” แต่คือ Real Time – Real Character – Real Data 3 องค์ประกอบสำคัญ

1. Real Time 

ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปตามสิ่งเร้า รวมถึงเทรนด์ที่เปลี่ยนเร็วขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสนใจสิ่งต่างๆ สั้นลง จึงทำให้เกิดเป็น Real Time Content การทำการตลาดที่จะช่วยให้แบรนด์ได้เข้าไปอยู่ในกระแสและเกิดการพูดถึง แต่ทั้งนี้ยังรวมถึงการทำ Real Time ในแง่อื่นๆ อาทิ การแก้ปัญหา การทำโปรโมชั่น การซัพพอร์ต หรือการมีแอ็กชั่นกับผู้บริโภคก็ต้องทำแบบ Real Time ด้วยเช่นกัน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ

2. Real Character

ปัจจุบัน Real Time ไม่ใช่แค่ความเร็วในการตามกระแสเท่านั้น แต่คือการสร้างตัวตนหรือคาแรกเตอร์ของแบรนด์ ที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารข้อมูลออกมาให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าและตรงกับตัวตนของแบรนด์มากที่สุด ให้ความรู้สึกว่าแบรนด์คือ “เพื่อน”

3. Real Data

การทำการตลาดแบบ Real Time นอกจากจะทำให้แบรนด์อยู่ในกระแสแล้ว ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้นได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลหรือปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อสามารถแก้ปัญหาได้ทันที ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกที่ดีต่อเเบรนด์

6 Steps ที่จะช่วยให้การทำ Real Time Marketing มีคุณภาพ!

เฟรมเวิร์กที่ควรโฟกัสเพื่อให้การทำ Real Time Marketing เกิดประสิทธิภาพ โดย คุณ นารีรัตน์ แซ่เตียว CEO & Co-Foundation InsightERA ซึ่งเป็น 6 ขั้นตอนที่เรียบง่ายเเต่ช่วยให้การทำ Real Time Marketing มีประสิทธิภาพ

1. Listen & Monitor 

ศึกษาและติดตามว่าในตอนนั้นผู้บริโภคกำลังสนใจหรือพูดถึงอะไรกันอยู่ ดูว่าผู้บริโภคชอบหรือไม่ชอบอะไร แบรนด์ต้องทำความเข้าใจและจับประเด็นให้ชัดเจน เพื่อนำมาตั้งต้นการทำคอนเทนต์ได้ง่าย 

2. Interpret & Analyses

หลังจากได้ประเด็นที่ต้องการแล้วให้นำมาตีความและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อดูกระแสที่อาจจะเกิดขึ้นว่าจะไปในเชิงลบหรือเชิงบวก 

3. Strategize & Plan

สร้างกลยุทธ์และวางแผนให้กับคอนเทนต์หรือแคมเปญนั้นๆ โดย 3 ขั้นตอนแรกจะใช้เวลาเพียงสั้นๆ หรือภายใน 1 วันเท่านั้น หากดูทิศทางแล้วว่าสิ่งที่จะทำนั้นไม่ก่อให้เกิดดราม่าหรือกระแสเชิงลบก็สามารถลงมือทำได้เลย

4. Act & Engage

ลงมือทำและติดตามคอนเทนต์หรือแคมเปญนั้นๆ อย่างใกล้ชิด เพราะบางครั้งคอนเทนต์ที่ทำไปแล้วอาจเกิดกระแสในแง่ลบ ควรมอนิเตอร์อยู่ตลอดเพื่อแก้ปัญหาแบบ Real Time เช่นกัน 

5. Measure & Optimize

วัดผลเพื่อนำกลับมาวิเคราะห์ดูว่าอะไรที่เราทำได้ดีและอะไรที่เราพลาดไป เพื่อนำกลับมาปรับปรุง

6. Adapt & Scale 

สรุปผลที่เกิดขึ้นและนำมาปรับใช้กับแคมเปญหรือโปรโมชั่นอื่นๆ เพราะการทำคอนเทนต์เล็กๆ อาจนำไปสู่การสร้างแคมเปญที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต

เช็กลิสต์ Do/Don’t ในการทำ Real Time Marketing เตรียมความพร้อมก่อนการลงมือทำ

Do คำแนะนำสิ่งที่ “ควรทำ”

1. Stay relevant and timely – ควรติดตามกระแสหรือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงนั้นๆ อยู่ตลอด

2. Use data wisely – ไม่เพียงแต่ตามกระแสเท่านั้น แต่ควรพิจารณากับข้อมูลที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบด้วย

3. Be agile – ทำงานอย่างรวดเร็วและเตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

4. Prepare for crises – เตรียมพร้อมกับวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นหรือคิดในแง่ร้ายไว้ก่อนเพื่อสามารถรับมือได้อย่างถูกต้อง

Don’t คำแนะนำสิ่งที่ “ควรระวัง”

1. Don’t React Hastily – อย่ารีบจนเกินไป บางเรื่องที่อาจไวรัลในตอนนั้น แต่อาจกลายเป็นประเด็นในเชิง Negative ได้ ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีก่อนลงมือทำ

2. Don’t Ignore Sensitivities – เพราะเรื่องบางเรื่องละเอียดอ่อนกับคนบางกลุ่ม ควรดูความเหมาะสมก่อนการลงมือทำ

3. Don’t Neglect Data – อย่าละเลยข้อมูลที่เกิดขึ้น

4. Don’t Chase Every Trend – ไม่ต้องตามทุกเทรนด์ แต่ให้เลือกเฉพาะเทรนด์ที่ตรงกับแบรนด์และกลุ่มลูกค้า อย่าขายตรงมากเกินไป

หลังจากได้รับคำแนะนำไปแล้ว เรามาดูกันว่า Marketer ทั้ง 3 ท่าน จะมีการวัดผลหลังจากทำ Real Time Marketing อย่างไรกันบ้าง? 

1. Sentiment & Engagement การที่ลูกค้าพูดถึงแบรนด์เราไปในทิศทางไหน ไม่ว่าจะเป็น Positive หรือ Negative จากนั้นนำมาแก้ปัญหาโดยใช้ Real Time Data 

2. การวัดผลในเชิง Short-Term เช่น ยอดขาย และการวัดผลแบบ Long-Term การที่ลูกค้าได้รู้จักเรามากขึ้นหรือลูกค้าใหม่เกิดขึ้น

3. ต้องวัดผลต้องให้ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ในตอนแรก หากทำ Real Time เพื่อต้องการ Awareness ก็ต้องดูว่ามีคนพูดถึงเราอย่างไรบ้าง หรือหากทำเพื่อต้องการ Conversion ก็ต้องวัดผลจากยอดขายที่เกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญ คือ เราต้องวัดผลแบบ Real Time เช่นกัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

คำแนะนำสำหรับการทำ Real Time Marketing

1. เลือกใช้ Tools ให้เป็นประโยชน์ 

จับตาเทรนด์ที่เกิดขึ้นโดยการนำ Tools เข้ามาช่วย อาทิ ตามเทรนด์จาก Live Feed ดูสิ่งที่คนกำลังนิยมในตอนนั้นหรือพูดถึงเรื่องใดเป็นพิเศษ และเลือกหยิบเทรนด์ที่เหมาะสมกับแบรนด์มาทำคอนเทนต์ต่อ

2. สร้าง Real Time แบบวางแผนล่วงหน้า

วางแผนการทำคอนเทนต์หรือแคมเปญจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นซ้ำๆ ในทุกปี ดูว่าหัวข้อหรือประเด็นไหนที่น่าสนใจและยังไม่มีใครหยิบขึ้นมาทำ อาทิ การสร้าง Real Time จากช่วง Seasonal โดยใช้ข้อมูลที่เกิดขึ้น + ความสนใจของคนที่ต้องการจะสื่อสาร 

3. เตรียมรับมือและแก้ไขปัญหาได้แบบ Real Time เพราะหากมีการแก้ปัญหาแบบทันท่วงที อาจทำให้ผู้บริโภคมี Positive Feedback ที่ดีกับแบรนด์ 

4. ใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยเพื่อหาเวลาไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ 

“ การทำ Real Time Marketing สามารถเปลี่ยน 

Content สู่ Moment เพื่อให้คนจดจำได้ ”

ทุกคนจะเห็นว่าการทำ Real Time Marketing ไม่ใช่แค่ความไว ความเร็วเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่จะช่วยให้เกิด Real Impact โดยการใช้กลยุทธ์เเละการวางเเผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้สิ่งที่เเบรนด์ต้องการจะสื่อสารเข้าใจต่อผู้บริโภคเเละเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อเเบรนด์ รวมถึงยังต้องตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่เเบรนด์ตั้งไว้เเละทำให้ลูกค้าจดจำเเบรนด์ & มีประสบการณ์ร่วมกัน 

 หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยเพื่อร่วมสร้างโฆษณาของคุณน่าสนใจเเละเกิด Real Impact มากยิ่งขึ้น Clisk Thailand พร้อมให้คำปรึกษา ติดต่อคลิสค์ได้ที่ 0-2060-6977 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00 น. – 18:00 น.