ทำได้จริง! ยิงโฆษณา Google Ads อย่างไร ให้ยอดยอดขายเพิ่ม

หากคุณกำลังอยากทำ Google Ads เพื่อให้แสดงผลบน Google Search และเพื่อที่จะส่งลูกค้าของคุณไปบนเว็บไซต์ขายสินค้า ลองมาอ่านทริคดีๆ ตามนี้ แล้วลองไปทำตามดูได้เลย

1. การเตรียม Landing Page ที่ดีถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยทำให้การซื้อโฆษณา Google Ads มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยให้ค่าคลิกโฆษณาถูกลงอีกด้วย โดยพื้นฐานคือ Landing Page ของคุณควรมีคอนเทนต์ตามคีย์เวิร์ดที่ทำโฆษณาอยู่ด้วย อันนี้ถือว่าเป็นคำแนะนำจาก Google โดยตรงเลย หรือหากคุณมีการซื้อกลุ่มคีย์เวิร์ดที่หลากหลาย ทาง Google ก็แนะนำว่าควรทำหน้า Landing Page หลากหลายหน้า เพื่อตอบโจทย์กับกลุ่มคีย์เวิร์ดที่หลากหลายด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับศูนย์ผู้มีบุตรยาก การทำหน้า Landing Page ควรมี 3 หน้าหลัก เช่น หน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำ ICSI การใช้คีย์เวิร์ดในการซื้อ Google Ads เช่น การทำ ICSI, หน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการฝากไข่ การใช้คีย์เวิร์ดในการซื้อ Google Ads เช่น ราคาฝากไข่, หน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลแพทย์ การใช้คีย์เวิร์ดการใช้คีย์เวิร์ดในการซื้อ Google Ads เช่น ชื่อแพทย์ โดยเราจะต้องยิง Google Ads ไป 3 หน้า Landing Page ด้วยเช่นกัน ซึ่งการทำแบบนี้ Google Ads มองว่าจะทำให้ Landing Page ของคุณมีคุณภาพที่สูง จึงส่งผลให้ค่าคลิกโฆษณาถูกลง สำคัญมาก! Google บอกไว้เลยว่าไม่ควรส่งลูกค้าไปที่หน้า Home ถ้าโปรโมทสินค้าหลากหลาย เพราะคุณอาจจะได้คะแนนคุณภาพที่ค่อนข้างต่ำลงไปอีก ซึ่งจะส่งผลให้ค่าคลิกโฆษณาของคุณสูงขึ้นอีกด้วย

2. จัดเตรียมข้อมูลให้จบครบใน 1 หน้าเว็บไซต์ ก็จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยการเรียงลำดับความสำคัญบน 1 หน้าเว็บไซต์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น อันดับ 1 เป็นเรื่องของ Pain Point, อันดับ 2 เป็นเรื่องของบริการของเราสามารถแก้ Pain Point ลูกค้าอย่างไรได้บ้าง อาจจะมีการดีไซน์การแบ่งเป็น Bullet ที่ชัดเจน, อันดับ 3 มี Social Proof ว่าดีอย่างไรบ้าง อาจจะเป็นวีดีโอผู้ที่เคยมาใช้บริการเพื่อทำให้เห็นภาพมากขึ้น, อันดับ 4 เป็นช่องทางการสั่งซื้อสินค้า หรือเป็นฟอร์มให้ลูกค้ากรอกข้อมูลเพิ่มเติม เป็นต้น

3. อย่าลืมวางแผนการทำ Conversion เพื่อเป็นการวัดผลความสำเร็จของการทำโฆษณา เช่น เมื่อลูกค้าคลิกมาที่โฆษณา Google Ads ของคุณบนหน้า Google Search แล้ว จะคลิกมาสั่งซื้อสินค้า หรือคลิกติดต่อคุณสักกี่คน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์มากๆ เพราะจะส่งผลให้ Google Ads ส่งโฆษณาได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการสร้าง Conversion อาจจะต้องใช้เทคนิคในการติดตั้งตามลิ้งก์นี้ https://support.google.com/google-ads/answer/12216226?hl=en#zippy=%2Cinstructions 

4. การ Optimize Ads ก็มีความจำเป็น เพื่อเช็กสุขภาพที่ดีของ Google Ads ของคุณ แนะนำว่าควรมาเช็กทุก 5 วัน เพื่อให้ Google Ads คุณมีคุณภาพที่ไม่ต่ำ และสิ่งหนึ่งที่คุณต้องเช็กก็คือ “Search Terms” หรือภาษาไทยคือ “ข้อความค้นหา” จะเช็กได้ว่ามีคำไหนบ้างที่คนคลิกเข้ามาแล้วมาเจอกับโฆษณาและเว็บไซต์ของเรา ซึ่งบางคำที่คนค้นหา อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณก็ได้ ดังนั้นให้เลือกเป็น “Keyword Negative” ยกตัวอย่างเช่น คุณขายชาบู แต่คนดันค้นหาคำว่า หมูกระทะ แล้วมาเจอกับโฆษณาของคุณ แนะนำให้เอาออกทันที เพราะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่เขาสนใจธุรกิจของคุณแน่นอน ซึ่งการคอยมอนิเตอร์วิธีการนี้จะช่วยให้คุณประหยัดค่าโฆษณามากขึ้น และมีโอกาสได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วย

5. คอยดูเรื่องของ Conversion Rate เสมอ โดยค่า Conversion Rate ที่ดีแนะนำว่าสูงที่ 5% กำลังดีสุดๆ แต่ถ้าน้อยกว่า 5% นั่นเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะต้องไปปรับหน้าเว็บไซต์ดูเพิ่มเติม และดูว่าปุ่มที่เราติด Tracking เรื่องของ Conversion ไว้ มันเหมาะสำหรับการแสดงผลบนมือถือหรือคอมพิวเตอร์แล้วหรือยัง หากลองทดสอบดูแล้วปุ่มที่ติดดูไม่สะดวกต่อลูกค้า แนะนำให้ปรับหน้าตาปุ่มที่ติด Conversion ให้สะดุดตา และกดง่ายขึ้น

6. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง ในฟีเจอร์ “Auction Insights” หรือ “ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูล” แบบสม่ำเสมอ หากโฆษณาของคุณมีการแสดงผลเกิน 50% ถือว่าดีมากๆ

7. แนะนำให้ทีมคีย์เวิร์ด Phrase Match หรือการทำงานแบบวลี จะดีกว่า เพราะหากเราใช้ Broad Match หรือคำค้นหาที่กว้างจนเกินไป บางครั้งอาจจะไปแสดงในคำค้นหาที่เราไม่ต้องการให้แสดง เช่น “ขายบ้าน รามคำแหง” VS ขายบ้าน หากใช้คำว่า ขายบ้าน แบบ Broad Match อาจจะดูกว้างจนเกินไป ซึ่งผลลัพธ์ที่โชว์ที่หน้า Google Search อาจจะมาทั้งจังหวัดกรุงเทพมหานครก็ได้ แต่หากคุณทำเป็น “ขายบ้าน รามคำแหง” มีความเจาะจงเป็นวลีมากขึ้น โอกาสการปิดการขายก็เป็นไปได้มากกว่า
คราวนี้ตาคุณแล้ว ลองไป Adapt ทำโฆษณา Google Ads ให้มีประสิทธิภาพกันมากขึ้น กับ 7 วิธีนี้ดู รับรองว่าสามารถเปลี่ยนเป็นยอด Conversion ได้ไม่ยากแน่นอน หรือหากต้องการให้ Clisk ดูแลเรื่อง Google Ads ติดต่อเราได้ที่นี่เลย