เลือกใช้อย่างไรดี? ระหว่าง Macro Influencer หรือ Micro Influencer

แน่นอนว่าไม่มีนักการตลาดคนไหนไม่รู้จัก Influencer Marketing แน่นอน จริงไหมคะ? ถึงแม้จะรู้จักแล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนยังสงสัยอยู่ดีว่าเราควรเลือก Macro Influencer หรือ Micro Influencer ในการทำการตลาดดี วันนี้ Clisk มีเทคนิคเบื้องต้นในการเลือก Influencer มาฝากกันเลยค่ะ เผื่อแบรนด์ของคุณเองจะได้มีไอเดียในการเลือก Influencer ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อย่างแรกเลยต้องเข้าใจก่อนว่า Macro Influencer และ Micro Influencer จะไม่เหมือนกันก็ตรงที่…
▶ กลุ่ม Macro Influencer คือ กลุ่มที่มียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมากเกิน 100,000 ขึ้นไป
▶ กลุ่ม Micro Influencer คือ กลุ่มที่มียอดผู้ติดตามเป็นจำนวน 5,000 – 100,000

เมื่อเราแบ่งตัวเลขจำนวนยอด Like หรือ ยอด Follower ของ Macro Influencer และ Micro Influencer ชัดเจนแล้ว วิธีการเลือกมาใช้ในการทำการตลาดก็ควรดูหลายอย่างเหมือนกัน ไม่ใช่ดูเฉพาะตัวเลขยอด Like หรือยอด Follower เท่านั้น

1. อย่าลืมดูตัวเลขของ Reach

ปัญหาอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ Macro Influencer จะเจอกับ Alogrithm ในการโชว์คอนเทนต์ที่โดนกด Reach จากตัว Algorithm ซึ่งหลายเพจโดนกดหนักมากเหลือเพียง 1-3% เท่านั้น ซึ่งถ้าเป็น Micro Influencer ก็จะยังเห็นภาพไม่ชัดมากในส่วนของเรื่องนี้ ทีนี้ขอยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่องหาประสิทธิภาพของ Reach ระหว่าง Macro Influencer และ Micro Influencer กันเลยค่ะ

▶ เพจ A มีคนตาม 300,000 คน แต่มี Reach ปรกติอยู่ที่ 10,000 คน ซึ่งก็แปลว่ามี Organic อยู่ที่ 3.3% 

▶ เพจ B มีคนตาม 100,000 คน แต่มี Reach ปรกติอยู่ที่ 7,000 คน ซึ่งก็แปลว่าจะมี Organic อยู่ที่ 7%

จะเห็นได้ว่าถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วตัว Micro Influencer จะมีเปอร์เซ็นต์การมองเห็นที่มากกว่า แต่ถ้ามองที่จำนวน Reach ที่เข้าถึงจริงแล้ว เพจ A ก็ยังได้เยอะกว่าเพจ B อยู่ เพราะฉะนั้นถ้ามองดูแล้วไม่มีอะไรถูกหรือผิด แต่เราควรเอา Rate Card ของเพจนั้นๆ มาคำนวนเรื่อง CPR อีกด้วยว่าอะไรมีความคุ้มมากกว่ากัน การขอ Rate Card กับ Macro Influencer และ Micro Influencer อย่าลืมขอดูตัวเลข Reach ด้วยนะคะ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเลือกเพื่อความคุ้มค่า

2. อย่าลืมดูตัวเลขของ Engagement

แน่นอนว่าหลายคนมักจะเห็น Micro Influencer มี Engagement Rate ที่สูงกว่า Macro Ibfluencer ซึ่งถามว่าตัวเลขอันนี้สามารถเป็นตัวบ่งชี้ในการเลือกได้หรือไม่ ทาง Clisk ต้องบอกเลยว่า อาจจะไม่ได้เสมอไป หากเอา Macro Influencer และ Micro Influencer มาเปรียบเทียบกัน ทางที่ดีตัว Engagement Rate ควรเทียบระหว่าง Macro Influencer ด้วยกัน หรือ Micro Influencer ด้วยกันน่าจะดีกว่า ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เลย

▶ เพจ A มีคนตาม 1,000,000 คน มี Organic Reach อยู่ 10,000 (1%) มี Engaged User อยู่ที่ 5,000 คน (0.5%)

▶ เพจ B มีคนตาม 100,000 คน มี Organic Reach อยู่ 5,000 (5%) มี Engaged User อยู่ที่ 3,000 คน (3%)

จะเห็นได้ว่าถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วตัว Micro Influencer จะมีเปอร์เซ็นต์ของการ Engagement ที่มากกว่า แต่ถ้าดูเฉพาะตัวเลขที่ Engagement ตัวเพจ A จะได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า ทั้งนี้เอา Rate Card ของเพจนั้นๆ มาคำนวนเรื่อง CPE อีกด้วยว่าอะไรมีความคุ้มมากกว่ากัน

3. เลือกบทบาทให้เหมาะสม

หากแบรนด์ของคุณเป็นแบรนด์ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน การเลือกบทบาทของ Macro Influencer หรือ Micro Influencer จะเลือกทั้ง 2 อย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เช่น หากคุณอยากให้แบรนด์คุณอยู่ในกระแสหนักมากในช่วงแรก ก็เลือก Macro Influencer และหลังจากนั้นเลี้ยงยาวด้วย Micro Influencer ก็สามารทำได้ เพื่อทำให้เกิดการรับรู้แบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ต้องดูข้อ 1 และข้อ 2 ในการประกอบการเลือกด้วยนะคะ

สุดท้ายนี้ขึ้นอยู่กับแบรนด์เองด้วยว่า Marketing Objective คืออะไร สินค้าเป็นสินค้าประเภทไหน มีงบประมาณในการทำการตลาด Influencer เท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ต้องการคืออะไร อย่าลืมตั้งคำถามกับสิ่งเหล่านี้ก่อนเลือก Macro Influencer และ Micro Influencer กันด้วยนะคะ

หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยด้าน Social media marketing ในเรื่องของการทำโฆษณา Facebook Ads, Influencer Marketing เราพร้อมที่จะช่วยคุณสร้างแบรนด์ สร้างคอนเท้นท์ที่ดีและเลือกใช้ Influencer ให้คุ้มค่าที่สุด พร้อมการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ ให้ Clisk Thailand ของเราช่วยสร้างแบรนด์ของคุณได้นะคะ ปรึกษาหรือต้องการติดต่อคลิสค์ >>คลิก<< หรือโทร 0-2060-6977 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00 น. – 18:00 น.