วิธีเพิ่ม Conversion Rate ใน Facebook ให้สูงขึ้น ยอดขายดีทุกเดือน ต้องทำอย่างไร?

สำหรับบทความนี้ เป็นบทความที่เราจะมาพูดถึงเรื่อง Conversion Rate ซึ่งหลายบริษัทให้ความสนใจกับ Metric นี้มากๆ รวมถึง Clisk เองก็มีการโฟกัสเรื่อง Metric นี้ เพื่อทำให้ลูกค้าแต่ละแบรนด์ได้ยอดขายเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Conversion Rate คืออะไร? และมีความสำคัญอย่างไร? หากคุณทำโฆษณาบน Facebook

Conversion Rate คือ อัตราส่วนระหว่างยอดจำหน่ายสินค้าเมื่อเทียบกับยอดเข้าชมสินค้า ดังนั้น Conversion Rate ในทาง Facebook จึงบอกได้ว่า คนเข้ามาดูสินค้าจากโพสต์หรือ Facebook ของเราจำนวนเท่านี้ มีคนสนใจซื้อสินค้าของเราจริงๆ กี่คนหรือกี่คำสั่งซื้อ ทำให้เราประเมินได้ว่า Cost ของเราหรือว่า Facebook Ads ของเราที่ทำไปแล้วมีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยตัว Conversion Rate สามารถจำนวนด้วยการ เอาจำนวนคนที่ซื้อสินค้าหลังจากคลิกมาจาก Facebook Ads ของเราแล้ว หารด้วย จำนวนคนที่คลิกเข้ามาชมสินค้าของเราผ่าน Facebook Ads

แล้วเราจะทำอย่างไรให้ Conversion Rate ใน Facebook ให้สูงขึ้น ลองมาดูวิธีตามนี้กันเลย

1. ทำพาดหัวหรือ Headline หรือรูปต่างๆ ให้ดูน่าสะดุดตาตั้งแต่หน้าแรกเพื่อดึงความสนใจของลูกค้าตั้งแต่ 3 วินาทีแรก ทำให้ลูกค้าอยากคลิกดูรายละเอียดเพื่อทำการสั่งซื้อต่อ
2. บอกช่องทางการสั่งซื้อหรือช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน ไม่กำกวม มีบอกวิธีการโอนเงินที่ชัดเจน หรือสมัครสมาชิกอย่างไร ซึ่งต้องวาง Layout ให้ดูง่ายอีกด้วย โดยเฉพาะต้อง Mobile Responsive จะดีมากๆ เช่น ถ้าเราขายในช่องทาง Facebook ก็จะแนะนำเป็นขนาด 1:1, 9:16 หรือ 16:9
3. การนำ Tracking มาวัดผลก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่างเช่น การใช้ Google Analytic หรือการติด Meta Pixel และติด Event ต่างๆ ให้ชัดเจน จะได้ช่วยประเมินผลได้ว่า ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเรากี่คน หรือลูกค้าติดปัญหาการสั่งซื้อตั้งแต่หน้าไหน เพื่อที่เราจะได้ปรับปรุงหน้าสั่งซื้อนั้นๆ ให้ง่ายต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้น
4. หากทำ Facebook Ads เพื่อยิงโฆษณาไปที่เว็บไซต์ของคุณ อย่าลืมที่จะเช็ก Journey การสั่งซื้อสินค้าทุกหน้า ก่อนทำการซื้อโฆษณา Facebook Ads เพราะไม่งั้น หากคลิกไป แล้วหน้าสินค้าของคุณมีปัญหา ลูกค้าก็อาจจะออกจากเว็บไซต์ทันที ทำให้เสียโอกาสการขายอีกด้วย
5. ประเมิน Target Audience ว่ามีขนาดที่เหมาะสมหรือไม่ เช่น หากเป็นกลุ่มสินค้าของกิน ของใช้ทั่วไป Target Audience ก็อาจจะมีขนาดที่กว้าง ในขณะที่หากสินค้าคุณเป็นกลุ่มเฉพาะ เช่น กลุ่มผู้มีบุตรยากและต้องมีกำลังซื้อ อาจจะต้องแคบลง เพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด
6. เปลี่ยนสินค้า ภาพโปรโมชั่น คำโฆษณาและแคปชั่นให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม เช่น หากคุณขายนมผงที่สามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ควรมีการทำ Creative Content หลากหลายแบบเพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายนั้นๆ เช่น กลุ่มแม่และเด็กอาจจะชอบโปรโมชั่นที่มีของแถม หรือมีโค้ดส่วนลดเพิ่มเติม หรือกลุ่มผู้สูงอายุ อาจจะมีการบอกประโยชน์ของการดื่มนมสำหรับแบรนด์ของคุณ เป็นต้น
7. ลองทำการตลาดแบบ Retargeting ควบคู่ไปด้วย เช่น หากคุณมีการติด Meta Pixel และ Event ที่หน้าสินค้า คุณอาจจะทำกลุ่มเป้าหมาย Retargeting ไปหากลุ่มคนที่เคยดูสินค้าคุณ เพื่อให้เกิด Action เรื่องการสั่งซื้อ
8. Creative Content ที่มาแรงที่สุดตอนนี้ อย่าลืมเลือกที่จะทำ Video ในการขายสินค้าไปด้วย เพราะได้ทั้ง Engagement Rate ที่ดี แถม Conversion Rate ก็มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นด้วย เช่น หากคุณมีร้านอาหาร และอยากโปรโมทให้ได้ยอดขาย อย่าลืมที่จะนำวีดีโอการรีวิวอาหารภายในร้านหรือจุดขายอื่นๆ ของร้านค้ามาโฆษณาเพื่อเพิ่ม Conversion Rate ด้วยนะ ที่สำคัญ หากวีดีโอมีการใส่ Subtitle ก็จะดีมากๆ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ลูกค้าบางคนชอบดูวีดีโอแบบไม่มีเสียง แต่ยังได้อ่าน Subtitle ไปด้วยก็ได้

และทั้งหมดนี้ คือ 8 กลวิธีสำหรับผู้ที่ต้องการจะเพิ่ม Conversion Rate บน Facebook Ads เพื่อสร้างยอดขายให้เกิดขึ้นจริง โดยทาง Clisk ได้ลองทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยลงโฆษณา Facebook ในแคมเปญการสร้างยอดขายโดยเฉพาะ ก็สามารถติดต่อเรามาได้เลย