ทริค! การสร้างแบรนด์และทำอย่างไรให้ชนะใจลูกค้า
- Nov, 07, 2024
- News
การทำ Branding คือ การสร้างภาพลักษณ์และภาพจำของแบรนด์ รวมถึงดึงจุดแข็งของสินค้าหรือการบริการนั้นๆ ออกมา ทั้งนี้การทำ Branding ไม่เพียงแต่การทำโลโก้หรือการเลือกใช้สี แต่เป็นการดึงตัวตนของแบรนด์ออกมา และสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับลูกค้า
แต่เราจะสร้างแบรนด์อย่างไรในยุคที่ผู้บริโภคมีความต้องการที่ซับซ้อน รวมถึงเจาะลึกหลุมพรางและทางรอดของการทำ Branding ที่คุณอาจมองข้าม ความรู้ดีๆ โดย คุณ แดน ศรมณี Brandologist จาก brandology thailand และ คุณ โอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ จาก dentsu Group Chief, Brand Innovation & Marketing, Dentsu Group Of Companies ในงาน MITCON2024 (MARKETING INSIGHT & TECHNOLOGY CONFERENCE 2024
“หลุมพราง” ในการทำ Branding ที่ไม่ควรมองข้าม
1. หลุมพรางภายใน แบรนด์ยังไม่เข้าใจความหมายของการทำ “Branding”
เจ้าของธุรกิจหลายๆ ท่าน อาจโฟกัสการทำโลโก้ การเลือกใช้สี รวมถึงการทำแพ็กเกจต่างๆ ว่านั่นคือ Branding แต่จริงๆ แล้วยังมีองค์ประกอบและรายละเอียดอีกมากมาย แต่ที่สำคัญคือ เราควรให้ความสำคัญกับคำว่าแบรนด์ก่อน คือ การหาตัวตน หาความชัดเจนของธุรกิจคุณ เพื่อให้การทำ Branding ไปในทิศทางที่ต้องการ
2. ต้องเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรและตามหา The Man ในองค์กรณ์ให้เจอ!
The Man คนที่มี 3 องค์ประกอบนี้ ได้แก่
⚫ M – Money คนที่มีเงินในการบริหารให้เกิดขึ้น
⚫ A – Authority คนชี้นำให้ทีมงานไปในทิศทางเดียวกัน
⚫ N – Need คนที่มีความต้องการแบบเดียวกัน แล้วคุณจะไม่เสียเวลากับการประชุม
และที่สำคัญอย่ามอง Branding เป็นเรื่องไอเดียจนมากเกินไป เราควรทำความเข้าใจองค์ประกอบของ Business Model ให้เคลียร์ก่อนว่าต้องการจะขายใคร? ขายที่ไหน? และอะไรคือจุดต่างจากแบรนด์อื่นๆ
ตัวอย่างเคสสบู่จาก คุณ โอลิเวอร์ ที่เปลี่ยนจากหลุมพรางให้เป็น Solution
แบรนด์สบู่ที่ออร์แกนิกที่โฟกัสเรื่องดีไซน์ แพ็กเกจ ราคา ชื่อสินค้า จนลืมมองเรื่อง Business Model ว่าแท้ที่จริงแล้วต้องการจะขายใคร? ขายที่ไหน? รวมถึงจุดต่างของสินค้าคืออะไร? ระหว่างพูดคุยถึงเรื่อง Business Model กับแบรนด์ก็พบว่า ในขั้นตอนการผลิตสบู่ที่ส่งกลิ่นหอมและเด็กๆ ในหมู่บ้านจะมาร่วมช่วยกันทำสบู่ จนค้นพบว่า คนที่มีความสุขกับการทำสบู่ คือ เด็กๆ และพ่อแม่ที่อยากให้ลูกๆ ได้มาร่วมกิจกรรม จากนั้นจึงเปลี่ยนจากการขายสบู่มาเป็นขายคอร์สสอนการทำสบู่ให้พ่อแม่ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก นี่คือ! การเปลี่ยนหลุมพรางให้กลายเป็น Solution
เมื่อเจอหลุมพราง แล้วอะไรคือ “ทางรอด”
1. อย่ารีบ อย่าวู่วาม
⚫ ควรทำแบรนด์ตัวเองให้ชัดก่อน พยายามหาจุดแข็งของสินค้านั้นๆ และอย่าพึ่งรีบปล่อยสินค้าใหม่
⚫ ทุกอย่างต้องใช้เวลา เพราะการที่แบรนด์จะประสบความสำเร็จได้ ต้องใช้เวลา เปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ที่ต้องให้เวลาในการเติมปุ๋ย ตัดกิ่ง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ยั่งยืน เเละมีคุณภาพ
⚫ การออกสินค้ามาเยอะๆ เพื่อหวังว่าผู้บริโภคจะซื้อชิ้นใดชิ้นหนึ่ง ไม่ใช่ทางออก เเบรนด์ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าเเต่ละตัว ชัดเจน เเละดึงจุดเด่นออกมาให้ ให้เห็นความเเตกต่าง
⚫ อย่าพึ่งรีบปล่อยสินค้าใหม่ เพราะการขายได้ ไม่ได้บอกว่าแบรนด์ขายได้ การที่แบรนด์จะประสบความสำเร็จ ต้องใช้เวลา ไม่ใช่วัดยอดขายจากการ launch สินค้าเท่านั้น เพราะการขายได้ในช่วงเเรก อาจเกิดจากการที่บริโภคตื่นเต้นเท่านั้น
ภาพตัวอย่างเปรียบเทียบ Customer Journey พฤติกรรมของผู้บริโภคในการเลือกและตัดสินใจซื้อสินค้าเมื่อก่อนกับตอนนี้ จะเห็นได้ว่าปัจจุบันผู้บริโภคมี่ความซับซ้อนมากขึ้น มีการสอบถามและหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อ
ดังนั้นเเบรนด์ควรจะเข้าใจ Consumer Developing Motivation โดยการหา Motivation ในแต่ละ Life stage ของช่วงอายุนั้นๆ ให้เจอ เเละต้องดูว่าเเบรนด์ interact กับ Need Stage ของลูกค้าเเบบไหน ได้แก่
⚫Social Impact ⚫ Life Changing⚫ Emotional ⚫Functional
เคล็ดลับการชนะใจลูกค้าที่คุณอาจมองข้าม!
⚫เคล็ดลับเอาชนะใจ คือ พูดให้น้อย คุณต้องฟังให้เยอะ เพราะการที่คุณพูดเยอะ คือการที่คุณ Repeat สิ่งที่คุณรู้เเล้ว เเต่การที่คุณรับฟัง คุณจะได้หมวดหรือข้อมูลใหม่ๆ เพื่อจะหาทางออกของสิ่งที่คุณกำลังมองหาอยู่ + insight ผู้บริโภคมาร้อยเรียง
⚫เริ่มต้นจากคำถาม เพื่อหาทางออก เพราะเมื่อคุณเห็นคำถาม(ที่ถูกต้อง) คุณจะได้ทางออกไปเเล้วครึ่งนึง
⚫อย่าเสียเวลากับเทคโนโลยีมากจนเกินไป ใช้เทคโนโลยีในการพาคุณไปหาลูกค้า เเต่อย่าใช้มากจนเกินไปจนตกเป็นเครื่องมือเพราะสุดท้ายเเล้วคุณจะถึงวัตุประสงค์ที่ต้องการหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ Marketer Sense
⚫สุดท้ายแล้วคนที่รู้จักธุรกิจตัวเองดี คือ เจ้าของแบรนด์ ดังนั้นเมื่อคุณจ้าง Agency มาเเล้วต้องทำงานร่วมกับเอเจนซี่ด้วยความเชื่อใจ เพื่อให้ได้ Strong Brand
สุดท้ายอย่าเอาข้อมูลทุกอย่างมาเป็น Solution เราต้องหาสมดุลให้เจอ
ด้วยการ “คิด พูด ทำ ให้”
แนวคิด 9 Better Stories for Your Brand
- Better Stories are transformational ต้องนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในธุรกิจ
- Better Stories capture your attention ต้องทำให้คนสนใจ
- Better Stories tell the truth ต้องพูดถึงข้อเท็จจริง
- Better Stories have measurable outcomes ต้องมีการตอบกลับจากกลุ่มเป้าหมาย
- Better Stories are emotional ต้องมีอารมณ์เเละความรู้สึก
- Better Stories use strong verbs & short sentences ต้องใช้คำที่สั้น เข้าใจง่าย เเละทำให้เกิด Impact
- Better Stories are surprising ต้องเป็นที่น่าจดจำ เปลี่ยนความคิดจากด้านลบเป็นด้านบวก
- Better Stories are understandable ต้องสื่อสารให้เข้าใจได้ง่าย
- Better Stories inspire action ต้องสร้างเเรงบันดาลใจให้เกิดการลงมือ
เเละนี่คือ 9 เเนวคิด Better Stories ที่จะ Trigger ลูกค้า จากนั้นนำมาเรียบเรียงผ่าน Story Structure ที่จะหลอมรวม เเละสุดท้ายอย่าลืม Make the ‘Planet’ your most important ‘Client’ เราต้องพา People – Planet – Product ไปด้วยกัน หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยในการสินค้าเเละโปรโมทเเบรนด์ของคุณ Clisk Thailand พร้อมให้คำปรึกษา ติดต่อคลิสค์ได้ที่ 0-2060-6977 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00 น. – 18:00 น.
Enhance your sales and marketing efficiency in Southeast Asia with our expert social media team—contact us today for professional support.
Search
Categories
Recent Topics
- AI in Marketing Trends 2025 เทรนด์การใช้ AI กับการทำการตลาดปี 2025
- Behavioral Design for Better Marketing ออกแบบพฤติกรรมเพื่อการตลาดที่ดีกว่า
- ทริค! การสร้างแบรนด์และทำอย่างไรให้ชนะใจลูกค้า
- ดึงดูดลูกค้าด้วย Google My Business บริการฟรีจาก Google ที่ทุกธุรกิจควรรู้จัก!
- ถอด! โครงสร้าง 6Cs ที่จะช่วยสร้าง Ads ที่ขายของได้เเละคนชอบ