สนใจแค่ยอดLike ธุรกิจอาจไปไม่ถึงไหน

สนใจแค่ยอดLike ธุรกิจอาจไปไม่ถึงไหน

การโฆษณาที่ประสบผลสำเร็จบนเฟซบุ๊กนั้น ต่างก็ต้องใช้เงินลงทุนเพื่อการเพิ่มไลค์ให้กับเพจ หรือจำนวนฐานแฟนคลับ การได้เห็นจำนวนผู้ติดตามสูงขึ้นนั้นย่อมเป็นผลที่ดี แต่จำนวนผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้แปลว่ามันจะนำมาซึ่งยอดขายที่มากขึ้นตาม ซึ่งแต่ละแบรนด์ยังคงขาดความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับค่าของLikes อยู่มาก ซึ่งการลงทุนในFacebook นั้นสามารถช่วยเพิ่มแฟนคลับและความเชื่อมั่นของลูกค้าและดึงดูดลูกค้าใหม่ให้กับบริษัทคุณได้ในระยะเวลาอันสั้นเพื่อสร้าง Brand Loyalty ให้กับสินค้าของคุณด้วย แต่ควรตระหนักไว้อยู่เสมอ ว่าควรมีผู้ติดตามซึ่งสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ของเราอย่างแท้จริงด้วย การที่โฟกัสแต่เพียงตัวเลขแฟนคลับผู้ติดตามหรือแค่ยอดไลค์นั้นอาจจะส่งผลเสียต่อธุรกิจ แต่ถ้าวางแผนให้ลูกค้านั้นมีความรักต่อแบรนด์ที่เหนียวแน่นนั้นจะเป็นผลดีในระยะยาวมากกว่า เพราะฉะนั้นอย่าสนใจแค่ยอดไลค์อย่างเดียวนะจ๊ะ เมื่อคุณได้รู้และเข้าใจกับแนวคิดในการทำโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้งกันมากขึ้นแล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาไปวางกลยุทธ์การตลาดกับสื่อโซเชียลกันแล้วจ้า

โพสต์ Content บน Social Media มากไป เสียยอดไลค์ไม่รู้ด้วยนะ

โพสต์ Content บน Social Media มากไป เสียยอดไลค์ไม่รู้ด้วยนะ

เราอยู่ในยุคที่อินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทุกๆวัน ปัจจุบันนี้ คำว่า “Social Network” ไม่ใช่สิ่งที่ใหม่อีกต่อไป รูปแบบโฆษณาก็มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนั้นคอนเทนต์ในการนำเสนอก็มีความสำคัญเช่นกัน การพัฒนาคอนเทนต์ให้เข้าถึงจุดมุ่งหมายเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคโฆษณาออนไลน์อย่างทุกวันนี้ คอนเทนต์บนFacebook ก็เป็นอีกกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จ บางคนอาจจะคิดว่า ยิ่งโพสต์บนเฟซบุ๊กยิ่งประสบผลสำเร็จ แต่เรามาดูว่าจริงๆแล้วมันดีมั้ย ?จริงๆแล้วการโพสต์คอนเทนต์ใน Facebook มากกว่าหนึ่งโพสต์ต่อวันอาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ ดังนั้นการโพสต์บ่อยครั้งเกินไปสามารถทำให้จำนวนไลค์ คอมเมนต์ และการแชร์ แต่ละครั้งโดยรวมลดลงได้ (Engagement) เพราะการโพสต์ครั้งต่อไปนั้น ทำให้คนเห็นคอนเทนต์ได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม การสร้างคอนเทนต์บน Facebook นั้นคุณต้องมั่นใจว่าคอนเทนต์เป็นสิ่งที่น่าสนใจและดึงดูดจริงๆ รวมไปถึงรูปภาพและลิงค์ประกอบต้องสัมพันธ์กันอีกด้วย เพราะฉะนั้นเราควรหันมาใส่ใจจำนวนและคุณภาพของคอนเทนต์ที่โพสต์ต่อวันกันให้มาก เพื่อประสิทธิภาพของคอนเทนต์ที่เราโพสต์ไปนั่นเอง

มาทำความรู้จักกับฟีเจอร์ใหม่ในเฟซบุ๊กที่เหมาะกับสื่อประเภทที่ต้องให้ข้อมูลมากๆ อย่าง “Instant Articles” กันเถอะ

มาทำความรู้จักกับฟีเจอร์ใหม่ในเฟซบุ๊กที่เหมาะกับสื่อประเภทที่ต้องให้ข้อมูลมากๆ อย่าง "Instant Articles" กันเถอะ

มาทำความรู้จักกับฟีเจอร์ใหม่ในเฟซบุ๊กที่เหมาะกับสื่อประเภทที่ต้องให้ข้อมูลมากๆ อย่าง “Instant Articles” กันเถอะ ซึ่งฟีเจอร์นี้มันเด็ดตรงที่เราไม่ต้องแนบลิ้งค์อีกต่อไป เพราะสามารถให้บทความต่างๆ เผยแพร่ผ่านเซิร์ฟเวอร์ของเฟซบุ๊กได้โดยตรง ผู้อ่านไม่ต้องกดโหลดหน้าเว็บใหม่ และยังสามารถใส่ลิ้งค์ต่างๆ ลงไปในรูปภาพ โลโก้ รวมทั้งฟอลโล่วและ Subscribe ได้อีกต่างหาก! ว้าว! อยากรู้มากกว่านี้ เข้าไปศึกษาต่อกันได้ที่ http://instantarticles.fb.com/เลยครับ

ความเจ๋งของ Instagram ง่ายๆก็ทำการตลาดได้

ความเจ๋งของ Instagram ง่ายๆก็ทำการตลาดได้

นาทีนี้แบรนด์ไหนยังไม่เริ่มใช้ Instagram ถือว่าเอาท์สุดๆ เพราะอินสตราแกรมเป็นหนึ่งในโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอคทีฟในอินสตาแกรมกว่า 400 ล้านราย และ 75% อยู่นอกสหรัฐอเมริกา และอยู่ในไทยกว่า 7.1 ล้านราย การใช้อินสตาแกรมทำการตลาดจึงถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเราสามารถหาร้านค้าออนไลน์จำนวนมหาศาล และสร้างแบรนด์ให้มีแฟนที่เหนียวแน่นมากขึ้นได้ จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน Instagram พบว่า นอกจากจะเป็นคนที่ชอบติดตามและแชร์ประสบการณ์ผ่านรูปภาพแล้วยังเป็นคนที่ตื่นตัวกับสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา ดังนั้น Instagram จึงสามารถดึงดูดคนให้มีส่วนร่วม หรือทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับชมวิดีโอ ติดตั้งแอพพลิเคชั่นใหม่ หรือตอบสนองการสั่งซื้อผ่านลิงค์ออนไลน์ได้ไม่ยาก และนอกจากนั้นเราไม่ต้องลงทุนอะไรเลยเพียงแค่ใช้รูปภาพและสมาร์ทโฟนเท่านั้นก็สามารถตอบสนองควาต้องการของกลุ่มลูกค้าได้แล้ว

5 ข้อคิดก่อนทำ Influencer Marketing

5 ข้อคิดก่อนทำ Influencer Marketing

Influencer Marketing (Blogger คนนี้ “ของจริง” หรือ “ของปลอม”) กลายเป็นอีกวิธีการฮอตฮิตติดลมบนไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการใช้ Online Influencer หรือ Blogger เป็นส่วนร่วมในการตลาดออนไลน์สมัยนี้ ซึ่งก็เพราะหลายคนเริ่มมองเห็นโอกาสว่าทุกวันนี้เหล่า Influencer และ Blogger มีคนติดตามมากและมีหลายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจากการทำคอนเทนต์ร่วมอวยแบบเนียนบ้างไม่เนียนบ้างของพวกเขา  สิ่งที่พวกเราควรทำการบ้านอย่างละเอียดก็คือ “คุณภาพ” ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าที่จะไปสนใจเฉพาะจำนวนของแฟนคลับหรือผู้ติดตาม เพราะเหล่า Influencer และ Blogger ชอบเอามาเคลมเพื่ออัพราคาค่าตัวกันในสมัยนี้ซึ่งบางกลุ่มผู้ติดามของพวกเขาก็อาจจะเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายของเรา ดังนั้นคนที่เราจะดึงเข้ามาให้ร่วมในแคมเปญต่างๆ นั้นเป็น “ตัวจริง” หรือ “ตัวปลอม” ทีนี้เราลองต้องมาดูกันถึง 5 สิ่งที่ใช้พิจารณาก่อนที่จะเลือกใครสักคน1. สื่อออนไลน์ในมือและจำนวนคนที่ติดตามในแต่ละช่องทาง2. ความน่าเชื่อถือ ตัวตนหรือจุดเด่นที่สังคม และผู้ติดตามยอมรับ อัตราการตอบสนองสำหรับคอนเทนต์แนวที่เราต้องการ3. ประวัติการผลงานที่เคยทำร่วมกับแบรนด์หรือธุรกิจอื่นๆ4. ชื่อเสียง และชื่อเสียในอดีตที่ผ่านมา5. จุดที่จะผูกเข้ากับแบรนด์หรือธุรกิจของเรา 5 ข้อนี้เป็นพื้นฐานที่พวกเราจะคิดอยู่เสมอเวลาที่มีลูกค้าฝากให้ช่วยค้นหา Online Influencerเพราะหากจะเลือกแต่คนเด่นคนดังที่มีผู้ติดตามเยอะๆ แต่ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของลูกค้าเลย ให้เค้าทำคอนเทนต์ถึงธุรกิจของเราบ่อยขนาดไหนก็คงไม่ค่อยมีใครเชื่อและพอเป็นอย่างนั้นบางสิ่งที่คุณคิดว่าอาจจะโน้นน้าวคนให้เชื่อได้จะกลับกลายเป็นดาบสองคมที่กลับมาทำร้ายเราเอง เรื่องพวกนี้มันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากจริงๆ เพื่อความโปร่งใสจริงใจต่อผู้บริโภคการเลือกใช้ของจริงย่อมมีผลดีกว่าในระยะยาวอยู่แล้ว จริงมั้ยครับ

สร้างแฟนเพจใน Facebook สไตล์ใหนดี

สร้างแฟนเพจใน Facebook สไตล์ใหนดี

ถ้าเพจของเพื่อนๆ ยังนิ่งไม่ค่อยมีคน Like …ลองเข้าไปหาข้อมูลใน Social media creative shop ด้วยกันก่อนดีกว่า เพราะที่นี่สร้างเพื่อผู้ที่เริ่มทำเพจและ Content ในเฟสบุคโดยเฉพาะ รวบรวมกรณีศึกษาและแรงบรรดาลใจจากนักการตลาดทั่วโลกไว้ในที่เดียว (ว้าว) ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาไอเดียใหม่ๆ ในการโปรโมทธุรกิจบนเฟสบุค การแวะเข้าไปหาข้อมูลที่นี่ก่อนน่าจะช่วยได้มากเลยล่ะ…คลิกเลย https://goo.gl/0rDKOO