Lazy Marketing ตลาดคนขี้เกียจมาแรงตลอดโควิด-19 นี้แน่นอน

CMMU เผยงานวิจัยสำหรับตลาดคนขี้เกียจ เปิดโพล 3 ความขี้เกียจครองชีวิตคนไทย ขี้เกียจออกกำลังกาย, ขี้เกียจรอ และขี้เกียจทำความสะอาด สร้างโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ ซึ่งหากใครกำลังอยากทำธุรกิจกับกลุ่มคนเหล่านี้ล่ะก็ อย่าพลาดบทความนี้เด็ดขาดนะคะ

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ได้ทำการวิจัยกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,200 คน ใน 4 กลุ่มอายุ โดยแบ่งเป็น Gen Z, Gen Y, Gen X และ Baby Boomers พบว่า 10 อันดับกิจกรรมที่ในไทยขี้เกียจมากที่สุด ได้แก่  1.ออกกำลังกาย 84% 2.รอคิวซื้อของ 81% 3.ทำความสะอาดบ้าน 77% 4.อ่านหนังสือ 70% 5.ทำอาหาร 69 % 6.พูดคุยหรือเจอคนเยอะๆ 68% 7.ดูแลผิวพรรณตัวเอง 68% 8.เรียน/ทำงาน 65% 9.ออกไปช้อปปิ้ง 64%  และ 10.เดินทางไปไหนมาไหน 60%

และยิ่งในช่วงโควิด-19 แบบนี้แล้ว ต้อง Work from home ด้วย ยิ่งพาขี้เกียจกันไปใหญ่ คราวนี้ขอพูดถึง 5 อันดับแรกที่คนไทยขี้เกียจมากที่สุดอีกสักหน่อย

• คนส่วนใหญ่อยากผอม อยากใส่เสื้อผ้าแล้วดูดี แต่ขี้เกียจออกกำลังกาย ฉะนั้นธุรกิจที่จะเข้ามาตอบโจทย์ของคนกลุ่มนี้น่าจะอยู่ในหมวดของ ธุรกิจที่ทำแทนได้ อาทิ ทำบริการความสะอาดบ้าน  บริหารสั่งอาหาร  บริการซื้อของแทน หรือธุรกิจอาหารคลีนออนไลน์ที่พร้อมบริการแบบส่งออนไลน์
• อันที่ 2 คนไทยส่วนใหญ่เริ่มไม่อยากต่อคิวซื้อของ จะเห็นได้ว่า เดี๋ยวนี้ถ้าเห็นแฟนเพจโปรโมชั่นไหนทำการสื่อสารโปรโมชั่นของแบรนด์นั้นๆ ถ้าไปดูที่สาขาจะพบว่า คนต่อคิวจำนวนเยอะมาก ซึ่งธุรกิจที่จะมาตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ เช่น บริการซื้อของแทน หรือรับหิ้วแทนนั่นเอง จะเห็นได้ตามใต้คอมเมนต์ใน facebook ที่เป็น user มาคอมเม้นต์ว่ารับหิ้วพร้อมบอกราคาค่าหิ้ว ซึ่งเดี๋ยวนี้ติดเทรนด์เป็นอย่างมาก
• อันดับต่อไป คนไทยขี้เกียจทำความสะอาดบ้าน แม้ว่ายอดขายเกี่ยวกับบ้านและของตกแต่งภายในบ้านจะโตขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงโควิด-19 แต่พฤติกรรมหนึ่งที่ไม่ได้ล้อไปกับการซื้อสินค้าหมวดนี้คือการทำความสะอาดบ้านนั่นเอง start up หลายคนจึงออกแบบบริการทำบริการความสะอาดบ้านมาตอบโจทย์คนกลุ่มนี้มากมาย
• อันดับต่อมา หากเกริ่นเรื่อง คนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 7 บรรทัด สงสัยท่าจะจริง เพราะว่าดันมาติดอันดับที่ 4 ซะงั้น หลายแบรนด์ หลายเว็บไซต์ publisher จึงหันมาทำ podcast มากยิ่งขึ้น เพื่อให้คนไทยได้เสพคอนเท้นต์ผ่านการฟังแทนการอ่าน
• ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเลยว่า ก่อนโควิด-19 คนไทยส่วนใหญ่ขี้เกียจทำอาหารเป็นอย่างมาก แต่พอเจอโควิด-19 เมื่อต้นปี 2020 เป็นปรากฎการณ์หม้อทอดไร้น้ำมันขาดตลาดสุดๆ และหลังจากนั้นไม่ได้เริ่มควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ คนเริ่มออกไปทำงานตามปกติ ก็ทำให้ยอดการทำอาหารลดลงไปเลยทันที ธุรกิจที่พร้อมใช้งานทันที เช่น สินค้าประเภทพร้อมกิน พร้อมดื่ม จึงเหมาะมากๆ สำหรับกลุ่มคนเหล่านี้ ตอนนี้จะเห็นว่า Foodpanda, Line Man, Grab Food, GET และ Gojek ทำการตลาดกันรุนแรงมากๆ เพื่อตอบโจทย์ชีวิตของกลุ่มคนเหล่านี้

5 เคล็ดลับทำการรคลาดชนะใจมนุษย์ขี้เกียจ 
เคล็ดลับการทำการตลาดในยุคที่คนขี้เกียจครองเมืองนั้น เจ้าของสินค้าและบริการจะต้องมีการใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “SLOTH” เพื่อครองใจผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว โดยกลยุทธ์ “SLOTH” ประกอบด้วย

– Speed คือต้องมีความรวดเร็ว และต้องไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกเสียเวลา
– Lean กระชับ ตัดท่อนขั้นตอนที่ยุ่งยากออก เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน 
– EnjOy ต้องทำให้ผู้บริโภครู้สึกสนุก และเกิดแรงจูงใจในการใช้สินค้าและบริการ 
– ConvenienT สินค้าหรือบริการต้องมีความสะดวก ช่วยให้ชีวิตนั้นง่ายมากขึ้น
– Happy ความสุข จากความต้องการที่ถูกเติมเต็มและปัญหาได้ถูกแก้ไขด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด

ขอยกตัวอย่าง case study อีกสัดนิดเพื่อให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นว่าช่างเป็นคนขี้เกียจมมันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาติในด้านเศรษฐกิจอย่างไรได้บ้าง

Stitch Fix สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาความขี้เกียจคิดว่าจะซื้อหรือจะใส่อะไรดีนะ โดย Stitch Fix นี้จะส่งชุดตั้งแต่หัวจรดเท้ามาให้คุณประหนึ่งมี Stylist เป็นเพื่อนสนิทอยู่ตรงข้ามบ้านเลย หมดปัญหาซักทีกับประโยคเดิมๆที่คุณผู้หญิงชอบบอกว่า “ไม่มีชุดจะใส่” ทั้งๆที่มีชุดอยู่เต็มตู้

Blue Arpon เพียงแค่คุณบอกในระบบของ Blue Arpon ว่าคุณอยากกินอะไร เพียงเท่านี้วัตถุดิบชั้นดีทุกอย่างที่คุณต้องมีก็จะมาส่งถึงบ้าน ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน สบายๆ จริง

หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยด้าน Social media marketing ในเรื่องของการทำการตลาดออนไลน์ ให้ Clisk Thailand ของเราช่วยสร้างแบรนด์ของคุณได้นะคะ ปรึกษาหรือต้องการติดต่อคลิสค์ >>คลิก<< หรือโทร 0-2060-6977 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00 น. – 18:00 น.