Blog

บทความการตลาดออนไลน์คุณภาพ

ASEO คืออะไร? เมื่อ SEO ต้องเจอกับ AI Search เกมการติดอันดับกำลังเปลี่ยนไป

ASEO คือการรวมแนวคิดของการทำ SEO (Search Engine Optimization) แบบดั้งเดิมเข้ากับโลกใหม่ของ AI Search หรือ SGE (Search Generative Experience) ซึ่งจะเรียกว่า ASEO (AI-powered SEO) เพื่อให้คอนเทนต์บนเว็บไซต์ของคุณสามารถติดอันดับและถูกพูดถึง (Ranked and Mentioned) ได้ทั้งบน Google ธรรมดาและ AI Search ในปี 2025

ซึ่งกลยุทธ์การเขียนคอนเทนต์ เมื่อ SEO ต้องเจอกับ AI Search จะแบ่งเป็น 3 องค์ประกอบหลัก (3 Pillars) ดังนี้

1. การสร้างคอนเทนต์แบบ “Answer-First & Authority” (เพื่อ AI Search/SGE)

AI Search Engine (เช่น Google SGE) มักจะสร้างคำตอบที่กระชับและครอบคลุมจากแหล่งข้อมูลที่เป็นที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นคอนเทนต์ของคุณต้องถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “คำตอบสุดท้าย” ที่ชัดเจน

โดยกลยุทธ์การเขียนแนะนำตามนี้

  • เน้น “คำตอบ” ในย่อหน้าแรก (Answer-First) คำตอบที่กระชับ ตรงประเด็น และชัดเจน (ประมาณ 50-100 คำ) ก่อนที่จะลงรายละเอียด นี่คือสิ่งที่ AI ชอบนำไปใช้สร้าง AI Snapshot หรือ Generative Answer
  • ใช้คำถามและคำตอบที่ชัดเจน (Q&A Structure) กำหนดหัวข้อรอง (H2, H3) ในรูปแบบคำถามที่ผู้คนมักจะถาม (เช่น “AI Search คืออะไร?”, “ASEO ต่างจาก SEO อย่างไร?”) และให้คำตอบที่มีโครงสร้างชัดเจน
  • ข้อมูลที่มีโครงสร้าง (Structured Data/Schema Markup) เช่น FAQPage, HowTo, Review อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ AI เข้าใจและดึงข้อมูลไปใช้ได้อย่างแม่นยำ

2. การสร้างคอนเทนต์เชิงลึกแบบ “Comprehensive & Topical Authority” (เพื่อ Organic Ranking) เพื่อเอาชนะคู่แข่งบน Organic Search แบบดั้งเดิม คอนเทนต์ของคุณต้อง ลึก ครอบคลุม และเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในเรื่องนั้น ๆ

โดยกลยุทธ์การเขียนแนะนำตามนี้

  • ความครอบคลุมของหัวข้อ (Topical Coverage) อย่าเขียนแค่ Keyword หลัก แต่ให้เขียนครอบคลุม Topic Cluster ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น หากหัวข้อหลักคือ “ASEO Win” คอนเทนต์ของคุณควรมีส่วนที่อธิบายเรื่อง “Foundation SEO”, “AI Search Optimization Tactics”, และ “Measurement & Analytics”
  • ความลึกของข้อมูล (Depth) เจาะลึกถึงรายละเอียด ตัวอย่าง และกรณีศึกษาจริง (Case Studies) เพื่อแสดงความเชี่ยวชาญ (Expertise) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของหลัก E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness)
  • ใช้ LSI Keywords (Latent Semantic Indexing) ใช้คำและวลีที่มีความหมายใกล้เคียงกับ Keyword หลักอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อยืนยันกับ Google ว่าเนื้อหาของคุณครอบคลุมหัวข้อนั้น ๆ อย่างแท้จริง (เช่น เมื่อพูดถึง “ASEO” ควรมีคำว่า “SGE,” “Generative AI,” “Zero-Click Search,” “Featured Snippet” ฯลฯ)
  • อัปเดตและระบุปีที่ชัดเจน ยืนยันว่าข้อมูลของคุณเป็นข้อมูลล่าสุด เช่น การระบุปี “2025” ในเนื้อหาและชื่อเรื่อง เพื่อแสดงถึงความสดใหม่และเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

3. การสร้างคอนเทนต์เพื่อ “Brand Mention & Trust” (เพื่อ E-E-A-T) การที่แบรนด์ของคุณถูก “กล่าวถึง” (Mentioned) ทั้งจาก AI และ Organic Search ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือและความเป็นผู้เชี่ยวชาญ

โดยกลยุทธ์การเขียนแนะนำตามนี้

  • เน้นความเป็นแบรนด์ในเนื้อหา เชื่อมโยงกลยุทธ์เข้ากับความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของแบรนด์คุณ (Unique Selling Proposition – USP) เช่น “เคล็ดลับ ASEO ที่ใช้ได้ผลกับแบรนด์ไทยโดยเฉพาะ”
  • ความลึกของข้อมูล (Depth) เจาะลึกถึงรายละเอียด ตัวอย่าง และกรณีศึกษาจริง (Case Studies) เพื่อแสดงความเชี่ยวชาญ (Expertise) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของหลัก E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness)
  • แสดงหลักฐาน (Citations & Sources) อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือหรือข้อมูลจากงานวิจัยของคุณเอง และใส่ Author Bio ที่น่าเชื่อถือพร้อมลิงก์ไปยังโปรไฟล์ผู้เชี่ยวชาญ (Expert Profile) ของคุณ
  • สร้าง “Trust Signal” มีหน้า About Us ที่ชัดเจน, หน้า Privacy Policy, และหน้า Contact ที่เข้าถึงง่าย สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณที่บอกทั้ง Google และ AI ว่าคุณเป็นธุรกิจที่โปร่งใสและน่าเชื่อถือ

ด้วยการรวมกลยุทธ์เหล่านี้เข้าด้วยกัน คุณจะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งพอที่จะถูกจัดอันดับบน Google Search แบบดั้งเดิม และมีโอกาสสูงที่จะถูกคัดเลือกไปเป็นคำตอบในส่วนของ AI Generative Answer ในปี 2025 ได้อย่างแน่นอน

แชร์บทความ :
Picture of ผู้เขียน : Clisk.co.,Ltd
ผู้เขียน : Clisk.co.,Ltd

เอเจนซี่ที่ให้บริการด้าน Social Media Marketing ครบวงจรด้วยประสบการณ์กว่า 14 ปี พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจคุณสู่โลกการตลาดออนไลน์ให้เต็มศักยภาพในมุมมอง Partnership สู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและใช้งานได้จริง

บทความมที่เกี่ยวข้อง